อาจารย์ สุธินี มงคล
หัวหน้าสาขาการค้าระหว่างประเทศ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม
ในปัจจุบัน เศรษฐกิจของประเทศจีนเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ชาวจีนมีรายได้สูงขึ้น และสิ่งอำนวยความสะดวกในการดำรงชีวิตได้รับการพัฒนา ทำให้ชาวจีนมีอายุเฉลี่ยสูงขึ้น สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศจีนได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปมีจำนวนประมาณ 220 ล้านคน หรือประมาณร้อยละ 20 จำนวนประชากรทั้งประเทศ และคาดการณ์ว่าในปี 2593 จะมีผู้สูงอายุ ถึงร้อยละ 30 ทำให้ความต้องการสินค้าสำหรับผู้สูงอายุชาวจีนเพิ่มสูงขึ้นไปด้วย โดยคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 800,000 ล้านหยวน
นอกจากผู้สูงอายุชาวจีนจะมีกำลังซื้อสูงขึ้นแล้ว ประเภทของสินค้าที่ต้องการก็เปลี่ยนแปลงไปด้วย และผู้สูงอายุชาวจีนยังให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้ามากขึ้น เนื่องจากการรับเอาวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามา
ประเภทสินค้าที่มีโอกาสสูงในตลาดผู้สูงอายุชาวจีน ดังนี้
– เครื่องแต่งกาย เช่น เสื้อผ้าและถุงเท้า เป็นต้น
– สินค้าเพื่อสุขภาพ ปัจจุบัน ผู้สูงอายุให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพเป็นอย่างมาก เช่น ใบชา สินค้าอาหารป้องกันโรคเบาหวาน และถั่วต่างๆ เป็นต้น
– ผลิตภัณฑ์ที่อำนวยความสะดวกในการดำรงชีวิต เช่น รถไฟฟ้าสำหรับผู้สูงอายุ รถเข็น ไม้เท้า เครื่องช่วยฟัง แว่นสายตา เป็นต้น
– อุปกรณ์เกี่ยวกับสุขภาพ เช่น เก้าอี้นวดไฟฟ้า อ่างนวดเท้า เตียงช่วยออกกำลังให้ผู้สูงอายุ และเครื่องมือทางการแพทย์ เป็นต้น
– เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน/ผลิตภัณฑ์ดิจิตอล และสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น เครื่องโทรศัพท์ มือถือ กล้องถ่ายรูป เครื่องคอมพิวเตอร์ รีโมททีวี เป็นต้น
– ผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น หนังสือความรู้เกี่ยวกับโรคในผู้สูงอายุ เครื่องนอน สินค้าเฟอร์นิเจอร์ และของขวัญที่แสดงความห่วงใย เป็นต้น
มีการสำรวจพบว่า ปัจจุบัน ผู้สูงอายุที่มีความต้องการสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 78.91 ของจำนวนผู้สูงอายุชาวจีนทั้งหมด ร้อยละ 27.54 ต้องการอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกและการเดินทางท่องเที่ยว ร้อยละ 27.44 ต้องการสินค้าอาหาร และร้อยละ 8.72 ต้องการเสื้อผ้า อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตในประเทศจีนยังไม่ให้ความสำคัญกับตลาดผู้สูงอายุมากนัก สินค้าสำหรับผู้สูงอายุจึงยังไม่หลากหลาย ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้สูงอายุได้ มีการสำรวจพบว่า ปัจจุบันสินค้าสำหรับผู้สูงอายุที่ผลิตในประเทศจีนมีน้อยกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนความต้องการ และมีปัญหาในด้านคุณภาพและความปลอดภัย อีกทั้งอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าสำหรับคนกลุ่มนี้ยังอยู่ในขั้นการพัฒนา จึงทำให้ผู้บริโภคชาวจีนหันไปบริโภคสินค้านำเข้ามากขึ้น ดังนั้นจึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยในการเข้าไปเจาะตลาดผู้สูงอายุจีน
สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่ยังไม่สามารถส่งออกได้ ควรพัฒนาสินค้าและแสวงหาโอกาสจากนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมายังประเทศไทยจำนวนมากได้ ในปี 2559 มีจำนวนมากกว่า 8 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้สูงอายุจำนวนมาก จากการประเมินของ Intercontinental Hotel Group คาดว่าจะสร้างรายได้ให้ประเทศไทยจำนวน 829,500 ล้านบาท ในปี 2566 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้ประเทศไทย 371,000 ล้านบาท
ที่มา: http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/641645
https://www.smartsme.co.th/content/64465
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครเฉิงตู