วิทยาลัยโลจิสติกส์ฯ SPU จัดเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ‘TEMU กระทบขนส่งไทยอย่างไร’
วิทยาลัยโลจิสติกส์และซัพพลายเชน มหาวิทยาลัยศรีปทุม จัดเสวนาหัวข้อ ‘TEMU กระทบขนส่งไทย?’ แลกเปลี่ยนมุมมองผลกระทบต่อระบบขนส่งของไทย หลัง TEMU เข้ามาเปิดให้บริการในไทย
วิทยาลัยโลจิสติกส์และซัพพลายเชน มหาวิทยาลัยศรีปทุม จัดเสวนา SRIPATUM SUPPLY CHAIN ROUND TABLE #213-217 หัวข้อ : TEMU กระทบขนส่งไทย? โดยมี คุณสุรเดช เจียรยืนยงพงศ์ รองนายกสมาคมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ไทย ดร.ชยพล ผู้พัฒน์ อาจารย์ประจำวิทยาลัยโลจิสติกส์และซัพพลายเชน เป็นวิทยากร และดำเนินรายการโดย ผศ.ดร.ธรินี มณีศรี คณบดีวิทยาลัยโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ร่วมพูดคุยเกี่ยวกับกรณีที่ TEMU แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจากประเทศจีนเข้ามาเปิดให้บริการในประเทศไทย เมื่อวันอังคารที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา
คุณสุรเดช ได้กล่าวช่วงหนึ่งถึงผลกระทบต่อ Supply Chain ในประเทศไทย ว่า เนื่องจาก TEMU ใช้บริษัทขนส่ง J&T เพียงรายเดียว อาจจะทำให้ J&T มีอำนาจในการตัดสินใจ และหากผู้ผลิตสินค้าในประเทศไทยไม่พัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพเพียงพอ ไม่มีความแตกต่างจากผู้อื่นในตลาด อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแหล่งจัดหาสินค้า คนจะหันไปซื้อจากผู้ผลิตสินค้าในประเทศจีนแทน นอกจากนี้คนกลางอาจจะถูกตัดออกจะบบ Supply Chain เนื่องจากโรงงานสามารถขายตรงถึงลูกค้าได้ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ
คุณสุรเดช กล่าวว่า เนื่องจาก TEMU จะทำให้สินค้าจากจีนเข้ามาในไทยมากขึ้น ส่งผลให้การขนส่งระหว่างประเทศจะมีการบริหารจัดการที่ดีขึ้น เพื่อลดต้นทุนการขนส่งสินค้า ขณะเดียวกัน บริษัทขนส่ง J&T อาจจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น เพื่อกระจายสินค้าได้รวดเร็ว ขนส่งรายกลางจะเข้าไปเป็นพันธมิตรกับ J&T เพื่อร่วมกันกระจายสินค้าในประเทศ ส่วนขนส่งรายใหญ่ที่จะเข้าไปร่วมขนส่งสินค้าด้วยอาจจะได้รับค่าขนส่งที่ไม่ได้แพงมาก หรืออาจจะขาดทุนก็เป็นได้ ขณะที่ขนส่งรายเล็กต้องปรับตัวให้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้ได้ หากใช้ไม่เป็นก็จะหายไปจากระบบ
ดร.ชยพล กล่าวว่า เมื่อเกิดสมรภูมิสงครามการค้า จึงอยากเสนอให้ภาครัฐทำ Local Business First เพื่อช่วยสนับสนุนสินค้าไทย และให้มีการลงทะเบียนผู้ขายสินค้าให้มีมาตรฐาน นอกจากนี้ อยากให้ภาครัฐจัดแคมเปญให้เหล่าคนมีชื่อเสียงที่มีอิทธิพลทางความคิดมาช่วยโฆษณาสินค้าไทย เพื่อช่วยยกระดับให้ธุรกิจของผู้ประกอบการไทยก้าวเป็นระดับยูนิคอร์นให้ได้