>>> บทเพลงๆ นี้ ผมเชื่อว่าหลายคนที่ใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยต่างเคยได้ยินหรือเคยได้ร่วมร้องกันมาบ้าง มันเป็นบทเพลงที่สื่อแทนค่าของความเสียสละ ความมีจิตอาสา สู่จิตใจของการเป็น “ผู้ให้” ผู้ที่ให้ออกไปด้วยความชื่นชมยินดี และเสียงเพลงบทนี้นี่เองได้ดังขึ้นอีกครั้งหลังผ่านพ้นวิกฤตโควิดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มันดังชนิดที่ผมเองร่วมร้องไปด้วยยังสัมผัสได้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่ พลังที่กลับมารวมตัวกันอีกครั้งของนักศึกษาจิตอาสาของ ชมรมค่ายอาสาพัฒนาชนบท มหาวิทยาลัยศรีปทุม และ ชมรมบัญชี SPU การกลับมาครั้งนี้ถือเป็นการรวมตัวทำกิจกรรมครั้งสำคัญที่ทำให้สมาชิกหลายคนต่างตั้งตารอเป็นจำนวนมากกว่าร้อยชีวิตพร้อมที่จะออกไปทำความดีกันที่ โรงเรียนบ้าโป่งเก้ง ตำบลวังม่วง อำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี ระหว่างวันที่ 15-19 ธันวาคม 2565
>>> ทางด้าน ผอ.อาทิตย์ เสาธงใหญ่, อ.เฉลิมชัย สินธุอารีย์ และ อ.ภูดิท ไชยผล อาจารย์ที่ปรึกษาชมรมต่างออกปากชื่นชมในกิจกรรมที่เกิดขึ้นของนักศึกษา ผอ.อาทิตย์ เสาธงใหญ่...นักศึกษาของเราต่างอัดอั้นในการทำกิจกรรมมานานมากพอสมควร กิจกรรมที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ต่างได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก ผมเองก็อัดอั้นไม่แพ้กับนักศึกษาของเราเช่นกัน แต่ความอัดอั้นที่เกิดขึ้นครั้งนี้ทำให้เราต้องเตรียมการจัดการค่อนข้างหนักกว่าทุกครั้ง เพราะสถานการณ์โควิดมันยังไม่จางหายไปมันยังอยู่แต่เราก็ต้องอยู่กับมันให้ได้ และการทำกิจกรรมกับคนจำนวนมากๆ ก็ต้องระวังมากด้วยเช่นกันครับ ดังนั้นค่ายครั้งนี้ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้... อ.เฉลิมชัย สินธุอารีย์... รู้สึกดีที่ได้ออกมาทำกิจกรรมความดีกันอีกครั้ง ถือว่าทุกคนต่างก็ดีใจไม่แพ้กัน ทุกคนต่างช่วยกันคิด ช่วยกันทำ บนพื้นฐานของความระมัดระวังเป็นสิ่งแรก เพราะผู้บริหารของมหาวิทยาลัยก็ยังเป็นห่วงเช่นกัน ผมเชื่อว่ากิจกรรมความดีจะอยู่เป็นผลดีกับคนที่คิดดีทำดีครับ... อ.ภูดิท ไชยผล...เราต่างมองว่าอะไรที่จะเกิดขึ้นในค่ายหนนี้ที่จะเป็นปัญหากับเราบ้าง ผมจะระดมความคิดตรงส่วนนี้ให้กับนักศึกษาได้ช่วยกันมอง เมื่อเรามองว่าสิ่งไหนมันจะเป็นปัญหาต่อเราในอนาคตเราจะรีบจัดการแก้ไขทันที สุดท้ายกิจกรรมจบลงด้วยความภาคภูมิใจ ไม่เกิดอุปสรรค์หรือปัญหาใด...
>>> แน่นอนว่าเมื่อสิ่งดีใดเกิดขึ้นบนความตั้งใจของคน สิ่งนั้นย่อมเป็นผลดีและเป็นเรื่องที่น่ายินดีของคนคิดดี ทำดี น.ส.มณีรัตน์ ยศเครือ ประธานชมรมค่ายอาสาพัฒนาชนบท...แรกๆ ก็เกร็งอยู่นิดหน่อย เพราะเราต้องนำคนกว่าร้อยชีวิตออกมาทำกิจกรรมที่ยังมีโรคระบาดโควิดอยู่ แต่เราได้เตรียมการจัดการมาดี ขอแค่เราควบคุมทำตามแผนที่เราวางไว้ สมาชิกทุกคนก็มีความสุขดี ต่างพร้อมใจทำกิจกรรมที่มอบหมายเต็มที่ จึงทำให้กิจกรรมที่ทำออกมาสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นสนามเด็กเล่น กิจกรรมงานวัด กิจกรรมเชื่อความสัมพันธ์ชุมชน กิจกรรมหนึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งชุมชน ต้องขอบคุณสมาชิกทุกคนที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีคะ... น.ส.สุธาทิพย์ พลพิทักษ์ ประธานชมรมบัญชี SPU…เราได้จัดเตรียมกิจกรรมงานวัดกันเป็นอย่างดี เพราะนี่คือไฮไลท์ของเรา กิจกรรมงานวัดจัดขึ้นไม่เพียงแค่คนชมรมของเราเท่านั้นที่จะมาร่วมงาน ชาวบ้านของชุมชนบ้านโป่งเก้งก็มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่างจึงต้องจัดให้สมจริง มีร้านอาหาร มีร้านผลไม้ มีร้านน้ำ มีซุ้มเกมส์ต่างๆ สิ่งเหล่านี้สมาชิกทุกคนต่างได้รับบาบาทหน้าที่ถูกกำหนดงานให้ทำอย่างชัดเจน ภาพที่ออกมาคือ บรรยากาศเสมือนงานวัดจริงๆ ภูมิใจมากคะที่พวกเราตั้งใจทำออกมาดีมากๆ ชาวบ้านก็ตกใจว่าเราทำได้อย่างไงกัน จัดได้แบบเหมือนงานวัดจริงๆ คะ ซึ่งงานนี้ก็ได้รับเกียรติจาก ว่าที่พันตรี วชิรโรจน์ โคตะคาม ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโป่งเก้ง ที่ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานวัดในครั้งนี้ด้วยเช่นกันคะ...
>>> งานนี้จะตีมือหรือปรบมืออะไรก็แล้วแต่ ขอแสดงความยินดีกับความตั้งใจดีของนักศึกษาจิตอาสา ชมรมค่ายอาสาพัฒนาชนบท มหาวิทยาลัยศรีปทุม และ ชมรมบัญชี SPU ที่ได้ร่วมแรงรวมพลังสร้างสรรค์สิ่งดีออกมาได้อย่างยิ่งใหญ่ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การออกไปทำความดีครั้งต่อไปเราจะเห็นกลุ่มคนคิดดี ทำดี ในตัวตน SRIPATUM USR ร่วมใส่ใจรับผิดชอบต่อสังคม เพิ่มขึ้นต่อไปเรื่อยๆ นะครับ