พี่แอดมิน : ช่วงนี้เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย? น้องๆ หลายคนคงหาธุรกิจทำกันเพื่อหารายได้เสริมเพื่อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์กันอยู่ไม่น้อยแน่ๆ วันนี้พี่แอดมินจึงชวนกูรูผู้มีความคิดเรื่องธุรกิจและเงินตรามานั่งคุยกันแบบจริงจังแต่สบายๆ มาพบพี่เติงเติง หนุ่มเดือนคณะบริหารธุรกิจ ซึ่งบอกเลยว่าเรื่องราวของพี่เติงเติงวันนี้มีประโยชน์ที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมาก!!! เรียกว่าสาระความรู้แน่นๆ เน้นๆ แต่แอดขอเล่าก่อนว่าพี่เติงเติงคนนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน นอกจากมีดีกรีเดือนคณะแล้ว ยังเรียนเก่งระดับท็อปและเข้าแข่งขันเกี่ยวกับการจัดการและแก้ปัญหาการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศอีกด้วย โดยวันนี้พี่เติงเติงจะมาแชร์ทั้งเรื่องราว ไลฟ์สไตล์ความคิดเรื่องการแบ่งเวลา บอกเล่าความเป็นตัวตนของเติงเติง และแชร์เรื่องประสบการณ์แข่งขัน ที่สำคัญคือเคล็ดลับความสำเร็จที่ทำให้พี่เติงเติงไม่พลาดโอกาสในการทำทุกสิ่งในชีวิตให้ออกมาดีที่สุด ในแบบสไตล์ของเติงเติง – วรัญชัย ใครไม่อยากพลาดเคล็ดลับความสำเร็จที่สามารถนำไปใช้ได้ง่ายๆ แต่ได้ผลลัพธ์ที่ดีมาก ตรงมาทางนี้เลยค่ะ!
Deng - Warunchai Lioangkunoakson
ชื่อจริง : วรัญชัย ลีอังกูรอักษร
ชื่อเล่น : เติงเติง
ฉายาของฉัน : อกไก่
งานอดิเรก : เข้ายิม, ดูหนัง, อ่านหนังสือ
อยากนั่งรถไฟฟ้าหน้ามอไปไหน : เมเจอร์รัชโยธินครับ เพราะชอบดูหนังและที่นั่นใกล้ที่สุด สามารถเดินทะลุเข้าไปชั้นสองได้เลย
เพื่อนซี้ของฉัน : ก๊อต (หมอ) อยู่คณะนิติ
ไอจี : limhuatdeng
สถานที่นั่งเล่นในมอ : ฟิตเนสมหาลัยตึก 9 ชั้น 11 เพราะเพื่อนอยู่ที่นั่นกันครับ
อาหารเด็ดห้ามพลาด : ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระโรงเย็น
มุมนี้ถ่ายรูปสวย : ความจริงสวยทุกที่เลยครับในมอ ถ้าเรามั่นใจจะถ่ายที่ไหนก็ดูดีครับ
เติงเติง - เด็กบริหาร
ผู้เชื่อว่าการทำสิ่งที่ชอบ ทำให้เราทำมันออกมาได้ดีกว่า
พี่เติงเติง : สวัสดีครับ ผมชื่อเติงเติง วรัญชัย ลีอังกูรอักษร ปัจจุบันเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม คณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาธุรกิจระหว่างประเทศ ผมเรียนจบจากโรงเรียนรังษีวิทยา จากจังหวัดเชียงใหม่การเรียนตอนนั้นยังไม่ได้เด่นมากครับ เพราะผมจะทำกิจกรรมให้กับทางโรงเรียนเป็นส่วนใหญ่ (แต่ไม่ได้ทิ้งการเรียนนะครับ) ทางครอบครัวปล่อยให้ทำในสิ่งที่ชอบ และไม่บังคับเรื่องการเรียนเท่าไหร่ เว้นแต่คุณแม่ที่จะซีเรียสและคาดหวังในตัวผมมาก แต่ผมไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้คุณแม่ฟังเลย หากคุณแม่รู้คงจะไม่ถูกใจสิ่งนี้ (หัวเราะ) ผมเลยเชื่อว่าหากทำสิ่งที่ชอบแล้วเราจะมีใจที่จะทำ และสิ่งนั้นจะออกมาดีครับ ณ ตอนนั้นผมคิดว่าการใช้ชีวิตของเพื่อนส่วนใหญ่ในโรงเรียน ที่เช้ามาไปโรงเรียน กลับมาบ้านอาบน้ำแล้วเข้านอน เฝ้ารอวันหยุดเพื่อจะพักผ่อนและเป็นวันหยุดที่มีรูปแบบเดิมๆ ทำให้ “ผมรู้สึกเสียดายเวลาครับ” ผมจึงใช้เวลาช่วงมัธยมไปทำในสิ่งที่ชอบ และทำในสิ่งที่คิดว่าพัฒนาตนเองได้ เช่น การออกกำลังกายในช่วงเย็น ฝึกเล่นดนตรี เริ่มหาหนังสืออ่าน ไม่ใช่หนังสือเรียนนะครับแต่เป็นหนังสือที่ตัวเองสนใจและอยากอ่าน หรือทำงานในวันหยุดบ้าง และหาประสบการณ์จากการใช้ชีวิตด้วยครับ
ความคิดจากครอบครัว สร้างผมเป็นผมในทุกวันนี้
พี่เติงเติง : ผมได้รับอิทธิพลความคิดจากครอบครัวเป็นส่วนใหญ่ มีคุณแม่ที่จบการศึกษาระดับเพียงมัธยมต้น เนื่องด้วยความลำบากยากจนในสมัยนั้น ท่านจึงต้องห่างบ้านเพื่อไปทำงานหาเลี้ยงครอบครัว พอเมื่อท่านมีผมภาระการเลี้ยงดูสั่งสอนเป็นคุณตาและคุณยายเป็นผู้ดูแลตั้งแต่ผมยังเล็ก และแน่นอนครับว่าพวกท่านไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือเช่นกัน จึงไม่สามารถมอบความรู้ในห้องเรียนแก่ผมได้ แต่ด้านความรู้ในการใช้ชีวิต
พวกท่านได้สอนผมผ่านประสบการณ์เรื่องราวความลำบากของพวกท่านแล้ว ท่านทำให้ผมรู้จักค่าของเงิน การเสียสละ ความรักและความอดทนที่ผมได้รับจากตายายทำให้ผมเป็นผมในทุกวันนี้ ส่วนค่าการศึกษาและค่าใช้จ่ายนั้นคุณแม่เป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมดครับ โดยท่านได้มอบสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่จะสามารถมอบให้ผมได้ ทั้งยังให้โอกาสหลายๆ อย่างไม่ว่าจะโอกาสที่เราได้พบกับผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ หรือโอกาสเรียนรู้สังคมในอีกขั้นหนึ่งซึ่งล้วนเป็นโอกาสที่ผมได้เรียนรู้ ได้เห็นมากกว่าเพื่อนๆ วัยเดียวกัน ซึ่งหากผมได้รับโอกาสและได้ทำอะไรสักอย่างแล้ว ผมจึงคาดหวังว่าผลลัพธ์ที่ได้ไม่ใช่เพียงแค่ใช้ได้หรือแค่ดีเท่านั้น แต่ต้องทำให้ดีที่สุดครับ
คนที่ พ ร้ อ ม ที่สุด คือคนที่มีโอกาสมากที่สุด
พี่เติงเติง : ดังนั้นในความชอบหรือความฝัน ที่ผมจะลงมือทำอะไรสักอย่าง จึงต้องมีปัจจัยสำคัญหลักๆ ที่จะขับเคลื่อนสิ่งนั้นให้เป็นจริงได้นั่นก็คือเงินครับ ผมเลยชอบเรื่องเกี่ยวกับเงิน จึงเลือกเรียนคณะบริหารธุรกิจแบบไม่ลังเล ส่วนการเลือกสาขาผมคิดวางฐานให้ตัวเองเป็นปลาใหญ่ในบ่อเล็กก่อนเสมอ โดยการหาจุดแข็งที่ตัวเองมีอยู่นั่นก็คือด้านภาษา เพราะที่บ้านสื่อสารกันด้วยภาษาจีนอยู่แล้วและครอบครัวประกอบธุรกิจเป็นทุนเดิมอยู่ด้วยจึงเลือกลงสาขาวิชาธุรกิจระหว่างประเทศครับ โดยสาขานี้ส่วนมากยังใช้ภาษาเป็นปัจจัยหลักในการเรียน ดังนั้นถ้าเรามีความรู้ด้านภาษาอยู่แล้วเราจึงไม่ต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจและเรียนรู้ใหม่มากนัก แต่สามารถนำเวลาไปเรียนรู้ในส่วนอื่นและมีเวลาเตรียมพร้อมที่จะได้รับโอกาสที่จะมาถึง เพราะผมคิดว่าคนที่มีความพร้อมที่สุดคือคนที่มีโอกาสมากที่สุด
เรียนที่นี่ได้ทำงานจริง และได้เงินจริงๆ ด้วยครับ
พี่เติงเติง : ผมประทับใจที่นี่ตั้งแต่มีจุดเด่นของคณะที่มีสาขาให้เลือกเยอะมากเลยครับ อีกทั้งได้เรียนรู้จากคนที่ทำและประกอบวิชาชีพในสาขานั้นจริงๆ ทำให้หลายๆ คนที่เรียนสามารถได้ความรู้และเห็นภาพการทำงานจากการเลือกเรียนสาขานั้นๆ ด้วย รวมถึงต้องขอชมอาจารย์ที่เป็นกันเอง เข้าใจกันและทำให้นักศึกษารู้สึกอยากเรียน เรื่องความเกร็งในการเรียนไม่ค่อยมีมากเท่าไหร่ และอาจารย์ก็ยังคงเป็นที่เคารพของลูกศิษย์ อีกทั้งอาจารย์เองมักจะมีโปรเจคจากนอกมหาลัยมาเสนอให้นักศึกษาได้ทำ ไม่ใช่การบังคับนะครับ (หัวเราะ) เพื่อที่นักศึกษาจะได้ประสบการณ์จากการทำงานนั้นจริงๆ (แถมได้เงินด้วย) และสิ่งที่น่าประทับใจที่สุดคือเพื่อนร่วมเรียนครับ ในรั้วมหาลัยนั้นเพื่อนร่วมเรียนเป็นสิ่งที่สำคัญมากเลยนะครับ และผมโชคดีที่มีเพื่อนร่วมเรียนที่ดีและมีความรับผิดชอบสูง อีกทั้งเข้าใจและให้เกียรติกันอีกด้วยครับ
แชร์ประสบการณ์แข่งขันฝีมือแรงงาน ไม่ใช่แค่เรียนรู้ แต่การแข่งนี้ ยังได้โอกาสต่อยอดมากมาย
พี่เติงเติง : ผมมีโอกาสไปแข่งขันเกี่ยวกับการจัดการและแก้ปัญหาการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศครับ โดยได้แรงบันดาลใจจากโอกาสที่อาจารย์มอบให้ผม อีกทั้งยังได้รู้ว่าภาครัฐสนับสนุนเรื่องนี้ ผมมองถึงเครดิตที่จะได้รับเลยตกลงทำทันทีเลยครับ ผมต้องขอบคุณ ผศ.ดร.สุธีนี มงคล และ อาจารย์สรพล บูรณกูล ซึ่งช่วยเสนอและประสานงานและติดตามโครงการ และ ประสานงานและติดตาม ท่านคณบดีและอาจารย์ทุกๆ ท่านในคณะบริหารธุรกิจที่ให้กำลังใจและเข้าใจ เพราะการเก็บตัวนั้นทำให้มีอุปสรรคในการเรียน อาจารย์ที่สอนในรายวิชานั้นๆ ทุกท่านล้วนเข้าใจและยืดหยุ่นให้ได้ครับ จุดที่ยากที่สุดคือการที่ผมต้องเก็บตัวเลยไม่ชินเท่าไหร่ ต้องห่างจากหลายๆ อย่างไม่ว่าจะครอบครัวหรือเพื่อนฝูง รวมถึงกิจวัตรที่เปลี่ยนไป อาจจะต้องใช้เวลาในการทำการคุ้นชิน ส่วนการแข่งขันนั้นผมมองว่าเรื่องความยากที่จะเข้าใจยากที่จะทำหรือยากที่จะแก้ไขล้วนเป็นสิ่งที่เราจะต้องเจออยู่แล้วครับ ซึ่งถ้าเราเข้าใจและแก้ไขได้สิ่งเหล่านั้นได้ มันก็ไม่ยากอีกต่อไปครับ สิ่งที่ผมได้จากการแข่งนี้คือ Connection เพราะผมได้ทำงานร่วมกับเพื่อนๆ ที่เป็นตัวแทนมาเหมือนกัน เพื่อนๆ เหล่านั้นก็ถือว่าเป็นเพื่อนที่มีการเรียนหรือความคิดซึ่งบางคนอาจจะมากกว่าเราด้วยซ้ำ อีกทั้งได้รับความรู้จากผู้เชี่ยวชาญที่ฝึกสอน ถือก็เป็นโอกาสที่หาได้ยากรวมถึงเครดิตที่จะได้มานั้นล้วนเป็นสิ่งที่ติดตัวเราไปตลอดครับ
เคล็ดลับผมคือการแบ่งเวลา ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะออกมาได้ดี
พี่เติงเติง : ทุกคนมี 24 ชั่วโมงเหมือนกันครับ และการจัดสรรเวลาให้ดีนั้นเราต้องมีวินัยและการวางแผน ผมไม่ให้เวลาแต่ละอย่างมาชนกัน และห้ามมีข้อยกเว้นให้กับงานที่ทำครับ ผมจะมีเวลาและแพลนที่แน่นอนในแต่ละวันอยู่แล้ว เพื่อที่ผมจะสามารถเรียนได้เต็มที่ ออกกำลังกายได้เต็มที่ และยังมีเวลาเหลือในการทำธุระส่วนตัวครับ กิจกรรมที่ทำก็มาจากการนำเวลาว่างไปทำกิจกรรม ผมไม่ได้ทำกิจกรรมแค่ในคณะบริหารนะครับ
บางครั้งก็ทำของต่างคณะด้วย เช่นคณะนิเทศศาสตร์ ดังนั้นด้านการจัดสรรเวลา คือสิ่งที่สำคัญครับ เพราะหากจัดสรรเวลาไม่ได้ก็ไม่สามารถรับงานเพิ่มได้ แม้รับก็จะส่งผลต่อกิจวัตรที่แพลนไว้และมีปัญหากับงานได้ครับ ดังนั้นไม่ว่าจะมีกิจกรรมหรือไม่เรื่องการเรียนผมมองว่าคือหน้าที่ๆ ผมเองต้องรับผิดชอบและทำให้ดีที่สุด แต่ผมจะเอาเป็นเรื่องเรียนเป็นหลักอยู่แล้ว เทคนิคการเรียนคือผมจะใช้เวลาในการทำความเข้าใจในแบบของตัวเอง มากกว่าไปจดหรืออ่านเพื่อจำไปสอบ หากมีอะไรสงสัยหรือจุดที่ไม่เข้าใจผมจะถามอาจารย์หลังจบคลาสทันทีครับ เพื่อจะได้ไม่ค้างคาก่อนจะเรียนเรื่องใหม่ ส่วนก่อนสอบทำแค่ทบทวนครับจะไม่ค่อยเหนื่อยมาก
ความคิดนี่แหละ ทำให้เราประสบความสำเร็จ
พี่เติงเติง : ความคิดคือสิ่งสำคัญที่สุดครับ เพราะเมื่อมีการคิดจึงจะมีการกระทำแล้วจึงจะเกิดผลลัพธ์ ดังนั้นหากจะเริ่มต้นทำอะไร ต้องเกิดจากวิธีการคิดที่ดี ต้องละเอียดรอบคอบและวางแผนถี่ถ้วน และเมื่อฐานความคิดนั้นดีแล้ว การลงมือทำและต่อยอดก็จะไม่ใช่เรื่องยากลำบากครับ เพราะผลที่ออกมาก็ได้ตามที่เราได้กระทำลงไปแล้วนั่นแหละครับ แต่หากผลไม่ได้ถูกใจหรือตามที่คาดหวังไว้ ผมจะมองย้อนกลับไปว่าผมผิดพลาดตรงไหน และเรียนรู้เพื่อนำไปแก้ไข และพยายามไม่คิดว่ากำลังจะต้องเสียอะไรไป แต่จะคิดว่ากำลังได้เรียนรู้อะไรจากการทำสิ่งนั้นๆ มากกว่า
ฝากถึงรุ่นน้องที่อ่านอยู่ อย่าลืมว่าเวลาคือสิ่งมีค่ามากที่สุด
พี่เติงเติง : เวลาที่สิ่งที่มีค่ามากที่สุดครับการจัดสรรหรือการวางแผนในแต่ละวันนั้นคือสิ่งที่สำคัญ อยากให้ทุกคนลองทำในสิ่งตัวเองชอบและเป็นตัวเองให้มากที่สุด เมื่อเราทำในที่ชอบเราจะค้นพบเป้าหมายและการที่จะไปถึงเป้าหมายคือการวางแผนเตรียมพร้อม ผมคงมอบกำลังใจหรือแนวทางที่ดีที่สุดให้กับน้องๆ เพื่อนๆ ทุกคนไม่ได้ แต่ผมเชื่อว่าประสบการณ์ ความคิดที่ผมได้เล่ามาทั้งหมดอาจประโยชน์แก่น้องๆ ในการวางแผนเส้นทางในอนาคตได้ เมื่อรับโอกาสนั้นทำมันให้ดีที่สุดนะครับ เพราะผลลัพธ์ที่เราควรคาดหวังไม่ใช่แค่ใช้ได้หรือแค่ดี แต่ต้องดีที่สุดนะครับ
แอดมิน : อ่านจบแล้วน้องๆ คงได้เห็นแง่มุมชีวิตที่เราอาจได้เจอได้พบและนำมาประกอบเป็นตัวเราในแบบของเราได้แล้ว จะเห็นว่าทุกสิ่งไม่ได้ง่ายแค่ปลายนิ้ว แต่ถ้าเราคลิกได้ถูกสิ่งก็ทำให้ชีวิตเราพลิกได้เลยเหมือนกัน อย่างที่พี่เติงเติงได้ให้เคล็ดลับพวกเราไว้สองข้อ คือค้นหาสิ่งที่ชอบและทำมันให้ดีที่สุด และอย่าลืมว่าเวลาคือสิ่งที่มีค่า จัดสรรให้ดีชีวิตลงตัวแน่นอน ส่วนใครชอบแนวบริหารธุรกิจ พี่แอดมินก็ขอแจกวาปให้ศึกษา ตามมาได้เลยนะ https://www.spu.ac.th/fac/business/th/