ผลงานทางวิชาการ

จิรัชญา สุขยืน 

 

 

          เศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วจากการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ประกอบกับวิกฤติ COVID-19 ที่ส่งผลกระทบรุนแรงไปทั่วโลก หลายธุรกิจมีการปรับตัวโดยนำเอาเทคโนโลยีมาช่วยในการทำงานทั้งการขาย การผลิต การสั่งซื้อ เพื่อให้รวดเร็ว ประหยัดต้นทุน นักบัญชีก็เป็นวิชาชีพที่ต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงเพราะเป็นส่วนงานที่ต้องสนับสนุนข้อมูลเพื่อการตัดสินใจที่รวดเร็ว ทันต่อเวลา จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจอยู่รอดและแข่งขันได้ นักบัญชีจึงต้องเตรียมพร้อมปรับตัวเพื่อสร้างมูลค่าให้กับตนเองและองค์กรในการทำงานในยุคดิจิทัล โดย

          1. หมั่นศึกษา

              นักบัญชีควรหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง มีความสามารถรอบด้าน ฉลาดคิดวิเคราะห์ แยกแยะ มีความสามารถในการมองภาพรวม รู้ทันสถานการณ์ กลยุทธ์การบริหารธุรกิจ และความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี

          2. ปรับทัศนคติ 

              นักบัญชีควรเปิดใจรับและปรับทัศนคติที่มีต่อเทคโนโลยี ซึ่งเทคโนโลยีจะเข้ามาช่วยในการทำงาน ทำให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว และเป็นเครื่องมือที่อำนวยความสะดวกต่อการทำงานเป็นส่วนเสริมให้นักบัญชีได้ปรับตัวเองและไปพัฒนาไปทำส่วนงานอื่นแทน โดยไม่ต้องเสียเวลาทำงานประจำเหมือนเดิม สร้างแรงผลักดันในการทำงานและความสัมพันธ์กับบุคคลจากภายนอกหน่วยงานบัญชีมากขึ้น

          3. สร้างบทบาทใหม่ ในฐานะคู่คิดธุรกิจ

              นักบัญชีได้รับการคาดหวังให้มีบทบาทสำคัญเป็นคู่คิดธุรกิจในยุคดิจิทัล จะเน้นการวิเคราะห์แบบมองไปข้างหน้า รวมทั้งตั้งคำถามและวิเคราะห์ด้วยวิธีการที่หลากหลายเพื่อให้ได้มุมมองที่แตกต่าง โดยนักบัญชีจะต้องทำงานควบคู่ไปกับ Business Function อื่น ๆ เพื่อตอบโจทย์และขับเคลื่อนธุรกิจให้มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น ดังนั้น นักบัญชีจึงจำเป็นต้องพัฒนาทักษะในด้านต่าง ๆ ให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

          เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผลกระทบของเทคโนโลยีที่จะเข้ามาทำงานแทนมนุษย์จะมากขึ้น นักบัญชีจึงต้องมีการปรับตัว ยอมรับการเปลี่ยนแปลงและพร้อมที่จะพัฒนาอยู่เสมอ ด้วยการมีความสุขกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ จะช่วยให้การทำงานในโลกดิจิทัลเป็นเรื่องสนุกและมีความสุขได้

 

 

แหล่งที่มาของข้อมูล : สภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ https://www.tfac.or.th/upload/9414,135088