ยื่นภ.ง.ด. 51 อย่างไร ไม่ให้เสียเบี้ยปรับเงินเพิ่ม
05
Apr
กฤษฎา อึ้งทองหล่อ
นักตรวจสอบภาษีปฏิบัติการ
สำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 14
นักศึกษาหลักสูตรบัญชีมหาบัณฑิต
คณะบัญชี มหาวิทยาลัยศรีปทุม
ยื่นภ.ง.ด. 51 อย่างไร ไม่ให้เสียเบี้ยปรับเงินเพิ่ม
ภ.ง.ด 51 เป็นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี (6 เดือน) โดยกำหนดให้ยื่นรายการภายในสองเดือนนับแต่วันสุดท้ายของครึ่งรอบรอบระยะเวลาบัญชี สำหรับรอบบัญชีปกติตามปีปฏิทิน คือ เริ่มวันแรกในวันที่ 1 มกราคม และสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี
การยื่น ภ.ง.ด.51 เป็นการยื่นประมาณการกำไรสุทธิของบริษัททั้งปี โดยดูจากผลประกอบการจริงในช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน บวกด้วย ประมาณการกำไรสุทธิ เดือนกรกฎาคม-ธันวาคม ก็จะได้ประมาณการของทั้งรอบระยะเวลาบัญชี จากนั้นหารด้วย 2 เพื่อให้ได้ตัวเลขมาคำนวณภาษีครึ่งปี อย่างไรก็ดี ปัญหาที่พบบ่อยในการยื่น ภ.ง.ด.51 คือ การประมาณการกำไรสุทธิที่ผิดพลาด ทำให้ต้องเสียค่าปรับในภายหลัง เนื่องจากตามมาตรา 67 ระบุว่า หากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลแสดงประมาณกำไรสุทธิขาดไป เกินกว่าร้อยละ 25 ของกำไรสุทธิ(จริง) จะต้องเสียเงินเพิ่ม 20% ของภาษีที่ชำระขาดไป นอกจากว่าจะมีเหตุอันสมควร อันได้แก่ อัตราแลกเปลี่ยน หรือคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายใหม่ซึ่งไม่สามารถคาดการณ์ได้
นอกจากนี้ กรณียื่นแบบพ้นกำหนดระยะเวลาจะต้องเสียค่าปรับและเงินเพิ่ม โดยค่าปรับแบ่งเป็น
1. ยื่นแบบล่าช้าไม่เกิน 7 วัน ปรับ 1,000 บาท แต่
2. ยื่นแบบพ้นกำหนด 7 วันไปแล้วจะต้องเสียค่าปรับ 2,000 บาท
และเงินเพิ่ม ใกรณีที่ผู้เสียภาษีมีภาษีที่ต้องชำระ จะมีภาระ “เงินเพิ่ม” โดยมีวิธีการคำนวณ ดังนี้
1. หากยื่นแบบแสดงรายการล่าช้าไม่เกิน 2 วันให้เสียเงินเพิ่มในอัตรา 0.1% ของเงินภาษีที่ต้องชำระ
2. หากยื่นแบบแสดงรายการล่าช้าเกินกว่า 2 วันแต่ไม่เกิน 7 วันให้เสียเงินเพิ่มในอัตรา 0.5% ของเงินภาษีที่ต้องชำระ
3. หากยื่นแบบแสดงรายการล่าช้าเกินกว่า 7 เป็นต้นไปให้เสียเงินเพิ่มในอัตรา 1.5% ต่อเดือน ของเงินภาษีที่ต้องชำระจนกว่าเงินเพิ่มจะครบ 20% ของภาษี
ทั้งนี้ ค่าปรับอาญาและเงินเพิ่มข้างต้น “ไม่สามารถถือเป็นรายจ่าย” ในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลได้
แหล่งที่มาของข้อมูล