ผลงานทางวิชาการ

ศิริบูรณ์ แก้วสมนึก

 

 

          ปัจจุบันหลายคนสามารถเป็นผู้ประกอบการได้ไม่ยากนักเพราะด้วยตลาดของผู้บริโภคมีความต้องการค่อนข้างสูงและมีทุนทรัพย์สำหรับใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งหากจับเทรนด์ได้ การที่จะประสบความสำเร็จในการประกอบธุรกิจไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ควรพลาดเรื่องพื้นฐานนั่นคือเรื่องของ “ภาษี” ที่ธุรกิจสตาร์ทอัพควรจะรู้ 

          • ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นการเสียภาษีที่บุคคลผู้มีรายได้จะต้องยื่นเสียภาษีตามอัตราภาษีก้าวหน้า ส่วนภาษีเงินได้นิติบุคคลจะคิดจากอัตราร้อยละของกำไรสุทธิ

          • ภาษีหัก ณ ที่จ่าย สตาร์ทอัพต้องหักเงินไว้จำนวนหนึ่งไว้เพื่อนำส่งภาษีให้กับทางรัฐแทนผู้รับเงิน ภาษีหัก ณ ที่จ่ายสามารถนำไปเป็นเครดิตภาษีได้ในสิ้นปีหรือขอคืนภาษีได้

          • ภาษีมูลค่าเพิ่ม สตาร์ทอัพต้องมีรายได้มากกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี และต้องนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม

ภายในวันที่ 15 ของทุกเดือน

          • อากรแสตมป์ เป็นภาษีประเภทหนึ่งจะจ่ายในรูปแบบของแสตมป์ ที่ใช้สำหรับปิดบนเอกสารราชการและหนังสือสัญญาต่างๆ ทั้ง 28 ตราสารตามที่กฎหมายภาษีอากรกำหนด

          • ภาษีอื่นๆ เช่น ภาษีโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ภาษีสรรพสามิต ภาษีป้าย เป็นเรื่องที่จะต้องตรวจสอบว่าธุรกิจของเราจะต้องเสียหรือไม่ หรือโดนผลักภาระภาษีให้เป็นผู้รับผิดชอบเสียเอง

          ดังนั้น สตาร์ทอัพจึงควรรู้เรื่องของภาษีเกี่ยวข้องกับธุรกิจตนเอง มิเช่นนั้นอาจมีความผิดทางกฎหมาย เนื่องจากไม่ได้ปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด และทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มจากค่าปรับและเสียเวลาอีกด้วย

 

 

แหล่งที่มาของข้อมูล 

1) การวางแผนภาษีของธุรกิจสตาร์ทอัพ

2) ทำธุรกิจ Startup ต้องเตรียมรับมือกับการเสียภาษีอะไรบ้าง? | http://myaccount-cloud.com

3) จดบริษัทเมื่อไหร่ดี? สิ่งที่เจ้าของธุรกิจควรรู้ก่อนตัดสินใจ | http://taxbugnoms.co