เจาะลึกอาชีพ นักวางแผนการลงทุน
28
Mar
นางสาวรัชนี เล่าโรจนถาวร
ผู้ช่วยผู้จัดการ ฝ่ายบริการสินทรัพย์ลงทุนลูกค้า
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)
ศิษย์เก่า หลักสูตรบัญชีบัณฑิต
คณะบัญชี มหาวิทยาลัยศรีปทุม
สวัสดีค่ะ “พี่เหมือนฝัน” รัชนี เล่าโรจนถาวร ศิษย์เก่า คณะบัญชี รหัส 61 ปัจจุบันพี่ทำงานในตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้จัดการ ฝ่ายบริการสินทรัพย์ลงทุนลูกค้า บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ทำหน้าที่เป็น Wealth Advisor หรือในบางที่อาจจะใช้คำว่า Investment Advisor หรือ Investment Planner ซึ่งหมายถึง นักวางแผน/ที่ปรึกษาด้านการลงทุน นั่นเอง
Wealth Advisor ทำอะไรบ้าง ?
Wealth Advisor เป็นคนกลางระหว่าง Research และ Relationship Manager (RM) มีหน้าที่หลักในการให้คำปรึกษาข้อมูลด้านการลงทุน และวางแผนกลยุทธ์การลงทุนร่วมกับ RM เพื่อนำเสนอแผนการลงทุนให้แก่ลูกค้า โดยทำหน้าที่ตั้งแต่ Consulting / Planning / Monitoring และ Port Management ซึ่งต้องคอยติดตาม วิเคราะห์ข้อมูลและปัจจัยต่างๆ รวมถึงติดตามรายงานทางการเงิน ที่อาจส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์ลงทุน จากแหล่งข่าวที่มีความน่าเชื่อถือทั้งในและต่างประเทศ
ข้อดีของการเป็น Wealth Advisor @บริษัทหลักทรัพย์
คือ ความเป็นอิสระ และความเป็นกลาง ในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมให้กับลูกค้า โดยเฉพาะ “กองทุนรวม” เนื่องจากบริษัทหลักทรัพย์ เป็นตัวแทนขายหน่วยลงทุนของ บลจ. ซึ่งในไทยมี บลจ. มากกว่า 10 แห่ง นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น Private fund / Private equity และหุ้นกู้ ทำให้เรามีความความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องของการเงินการลงทุนกว้างมากขึ้น ซึ่งประสบการณ์ที่ได้รับก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ความท้าทาย ?
สิ่งที่หลีกหนีไม่ได้เลยคือ ความผันผวนของตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก “Uncontrollable ” ซึ่งส่งผลต่อพอร์ตการลงทุน และอารมณ์ของลูกค้า ทำให้ Wealth Advisor & RM ต้องให้ความสำคัญกับการบริหารอารมณ์ และความคาดหวังของลูกค้าเป็นสำคัญนอกจากนี้แล้ว “ข้อจำกัด” ของลูกค้าแต่ละราย ก็อาจส่งผลให้การลงทุนไม่เป็นไปดังแผน หรือวิธีการที่เรานำเสนอ
Wealth Advisor กับโอกาสเติบโตแบบ “Exponential”
สำหรับน้องๆ ที่สนใจพี่แนะนำให้เริ่มเตรียมตัวสอบ IC License ในช่วงปี 3-4 ให้ครบทั้ง 3 ตัว ได้แก่ IC Plain + IC Complex2 + IC Complex3 เพื่อขึ้นทะเบียนเป็น IC Complex1 หลังจากน้องได้ใบจบ เพื่อเป็นใบเบิกทางแรกในสายอาชีพ
ทั้งนี้ ระหว่างที่กำลังเรียนอยู่ในช่วงปี 1-4 พี่แนะนำให้เริ่มศึกษาก่อนว่า สินทรัพย์ลงทุนมีอะไรบ้าง ให้ผลตอบแทนอย่างไร ควรเริ่มลงทุนแบบไหน ค่อยๆศึกษาไปเรื่อยๆ หลังจากที่ได้ความรู้พื้นฐานแล้ว ให้ฝึกฟังข่าวเศรษฐกิจ ภาพรวมตลาดการลงทุน ในสื่อต่างๆ เช่น Yutube ของ The Standard wealth / Finnomena / TMB AM / SCBs / Finansia และอื่นๆ เป็นต้น ซึ่งถ้าน้องๆ ฝึกฟังไปเรื่อยๆ น้องจะเริ่มประติดประต่อความรู้ในด้านการลงทุนได้เองอัตโนมัติ
ที่สำคัญคือ ควรจะ “Learning by doing” ด้วยการฝึกลงทุนด้วยตนเอง (ไม่ต้องมีเงินเยอะ ก็สามารถทำได้) และพัฒนาไปวางแผนการลงทุนให้กับบุคคลใกล้ตัว เพื่อฝึกทักษะการวิเคราะห์ การนำเสนอ และการรับแรงกดดัน หรือหากมีโอกาสได้บริหารพอร์ตใหญ่ไม่ว่าจะเป็นในนามของบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ให้เก็บเป็น Profile สมัครงาน และอย่าลืม Soft skill และความมารถอื่นๆ เช่น Technical Analysis ซึ่งหากสามารถเรียนรู้ได้ตามที่พี่ได้กล่าวไว้ข้างต้น เรียนจบปริญญาตรี เงินเดือนเริ่มต้น 25,000 - 30,000 น้องทำได้ !!
แต่อย่างไรก็ดี หลังจากที่น้องมีสังกัดแล้ว พี่แนะนำให้ขอทุนบริษัทสอบ CFP Module1 และ CFP Module2 เพื่อขึ้นทะเบียนเป็น IP License หรือก้าวหน้าต่อด้วยการสอบ CFP ให้ครบทั้ง 6 Module เพื่อขึ้นทะเบียนเป็น นักวางแผนการเงิน “CFP” หลังจากนั้น
Wealth Advisor ทำอะไรบ้าง ?
Wealth Advisor เป็นคนกลางระหว่าง Research และ Relationship Manager (RM) มีหน้าที่หลักในการให้คำปรึกษาข้อมูลด้านการลงทุน และวางแผนกลยุทธ์การลงทุนร่วมกับ RM เพื่อนำเสนอแผนการลงทุนให้แก่ลูกค้า โดยทำหน้าที่ตั้งแต่ Consulting / Planning / Monitoring และ Port Management ซึ่งต้องคอยติดตาม วิเคราะห์ข้อมูลและปัจจัยต่างๆ รวมถึงติดตามรายงานทางการเงิน ที่อาจส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์ลงทุน จากแหล่งข่าวที่มีความน่าเชื่อถือทั้งในและต่างประเทศ
ข้อดีของการเป็น Wealth Advisor @บริษัทหลักทรัพย์
คือ ความเป็นอิสระ และความเป็นกลาง ในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมให้กับลูกค้า โดยเฉพาะ “กองทุนรวม” เนื่องจากบริษัทหลักทรัพย์ เป็นตัวแทนขายหน่วยลงทุนของ บลจ. ซึ่งในไทยมี บลจ. มากกว่า 10 แห่ง นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น Private fund / Private equity และหุ้นกู้ ทำให้เรามีความความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องของการเงินการลงทุนกว้างมากขึ้น ซึ่งประสบการณ์ที่ได้รับก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ความท้าทาย ?
สิ่งที่หลีกหนีไม่ได้เลยคือ ความผันผวนของตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก “Uncontrollable ” ซึ่งส่งผลต่อพอร์ตการลงทุน และอารมณ์ของลูกค้า ทำให้ Wealth Advisor & RM ต้องให้ความสำคัญกับการบริหารอารมณ์ และความคาดหวังของลูกค้าเป็นสำคัญนอกจากนี้แล้ว “ข้อจำกัด” ของลูกค้าแต่ละราย ก็อาจส่งผลให้การลงทุนไม่เป็นไปดังแผน หรือวิธีการที่เรานำเสนอ
Wealth Advisor กับโอกาสเติบโตแบบ “Exponential”
สำหรับน้องๆ ที่สนใจพี่แนะนำให้เริ่มเตรียมตัวสอบ IC License ในช่วงปี 3-4 ให้ครบทั้ง 3 ตัว ได้แก่ IC Plain + IC Complex2 + IC Complex3 เพื่อขึ้นทะเบียนเป็น IC Complex1 หลังจากน้องได้ใบจบ เพื่อเป็นใบเบิกทางแรกในสายอาชีพ
ทั้งนี้ ระหว่างที่กำลังเรียนอยู่ในช่วงปี 1-4 พี่แนะนำให้เริ่มศึกษาก่อนว่า สินทรัพย์ลงทุนมีอะไรบ้าง ให้ผลตอบแทนอย่างไร ควรเริ่มลงทุนแบบไหน ค่อยๆศึกษาไปเรื่อยๆ หลังจากที่ได้ความรู้พื้นฐานแล้ว ให้ฝึกฟังข่าวเศรษฐกิจ ภาพรวมตลาดการลงทุน ในสื่อต่างๆ เช่น Yutube ของ The Standard wealth / Finnomena / TMB AM / SCBs / Finansia และอื่นๆ เป็นต้น ซึ่งถ้าน้องๆ ฝึกฟังไปเรื่อยๆ น้องจะเริ่มประติดประต่อความรู้ในด้านการลงทุนได้เองอัตโนมัติ
ที่สำคัญคือ ควรจะ “Learning by doing” ด้วยการฝึกลงทุนด้วยตนเอง (ไม่ต้องมีเงินเยอะ ก็สามารถทำได้) และพัฒนาไปวางแผนการลงทุนให้กับบุคคลใกล้ตัว เพื่อฝึกทักษะการวิเคราะห์ การนำเสนอ และการรับแรงกดดัน หรือหากมีโอกาสได้บริหารพอร์ตใหญ่ไม่ว่าจะเป็นในนามของบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ให้เก็บเป็น Profile สมัครงาน และอย่าลืม Soft skill และความมารถอื่นๆ เช่น Technical Analysis ซึ่งหากสามารถเรียนรู้ได้ตามที่พี่ได้กล่าวไว้ข้างต้น เรียนจบปริญญาตรี เงินเดือนเริ่มต้น 25,000 - 30,000 น้องทำได้ !!
แต่อย่างไรก็ดี หลังจากที่น้องมีสังกัดแล้ว พี่แนะนำให้ขอทุนบริษัทสอบ CFP Module1 และ CFP Module2 เพื่อขึ้นทะเบียนเป็น IP License หรือก้าวหน้าต่อด้วยการสอบ CFP ให้ครบทั้ง 6 Module เพื่อขึ้นทะเบียนเป็น นักวางแผนการเงิน “CFP” หลังจากนั้น
ประสบการณ์ + License + Connection จะทำให้น้องมีรายได้เติบโตแบบ “Exponential” ในอนาคต
“ เริ่มต้นอาจจะเหนื่อย แต่เชื่อพี่เถอะ มันคุ้มที่จะพยายาม “
“ เริ่มต้นอาจจะเหนื่อย แต่เชื่อพี่เถอะ มันคุ้มที่จะพยายาม “