ผลงานทางวิชาการ

          เงินทุนถือได้ว่าเป็นฟันเฟืองที่สำคัญอันดับต้นๆ ในการดำเนินธุรกิจ ดังนั้น หากธุรกิจขาดซึ่งกระแสเงินสดเข้าเพื่อนำใช้ในการขับเคลื่อนและการบริหารงานภายในธุรกิจแล้ว อาจก่อให้เกิดปัญหาตามมาในหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นการขาดสภาพคล่อง ทำให้การดำเนินงานติดขัดหรือถึงขั้นหยุดชะงัก เสียเครดิตหรือความน่าเชื่อถือจากเจ้าหนี้หรือคู่ค้า ซึ่งอาจส่งผลกระทบในวงกว้างต่อการดำเนินงานของธุรกิจ ธุรกิจจึงจำเป็นต้องจัดหาแหล่งเงินทุนซึ่งอาจมีทั้งแหล่งเงินทุนจากภายนอกและจากภายในธุรกิจ แต่การที่ผู้ประกอบการจะมองหาและตัดสินใจเลือกแหล่งเงินทุนเพื่อนำมาใช้ในการดำเนินธุรกิจนั้นถือเป็นประเด็นที่มีความสำคัญโดยอาจส่งผลต่อโครงสร้างเงินทุนและไปสู่ต้นทุนทางการเงินของธุรกิจอีกด้วย ดังนั้น การกำหนดสัดส่วนหรือโครงสร้างของเงินทุนว่าจะจัดหาจากแหล่งใดจึงจะเป็นโครงสร้างเงินทุนที่เหมาะสมนั้น ผู้ประกอบการจึงควรพิจารณาและคำนึงถึงปัจจัยดังนี้ร่วมด้วย 
          1. อัตราการเจริญเติบโตของยอดขาย
          2. เสถียรภาพของยอดขายในอนาคตของธุรกิจ
          3. โครงสร้างการแข่งขันของอุตสาหกรรมที่ธุรกิจดำเนินการ
          4. โครงสร้างสินทรัพย์ของธุรกิจ
          5. ทัศนคติของเจ้าของและผู้บริหาร
          6. ทัศนคติของเจ้าหนี้

          นอกจากประเด็นที่ควรพิจารณาเกี่ยวกับโครงสร้างเงินทุนที่ผู้ประกอบการควรคำนึงถึงแล้ว อีกประเด็นที่ผู้ประกอบการควรพิจารณาร่วมด้วยเพื่อประโยชน์และความคุ้มค่าสูงสุด อันนำไปสู่ความมั่งคั่งของธุรกิจ นั่นคือ จะต้องเป็นแหล่งเงินทุนที่มีความเหมาะสมและเมื่อธุรกิจตัดสินใจเลือกใช้แหล่งเงินทุนนั้นแล้วต้องก่อให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุดต่อธุรกิจ ดังนั้น ผู้ประกอบการควรคำนึงถึงปัจจัยดังนี้
          1. จังหวะเวลาในการที่ธุรกิจจะใช้เงินทุน
          2. ความสะดวกในการจัดหาหรือการได้มาซึ่งเงินทุน
          3. โครงสร้างของเงินทุน โดยพิจารณาสัดส่วนของหนี้สินกับทุน ซึ่งควรอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ของนักลงทุน
          4. ต้นทุนของเงินทุน เช่น ดอกเบี้ยหรือเงินปันผล ซึ่งส่วนนี้จะเป็นต้นทุนหรือภาระในอนาคตของธุรกิจ