ผลงานทางวิชาการ

สุวรรณา คิงคำ

 

 

          ประเทศไทยพัฒนาเศรษฐกิจไปสู่การเป็นประเทศไทยในยุคดิจิทัล ซึ่งขับเคลื่อนโดยภาคอุตสาหกรรมให้ไปสู่ภาคเทคโนโลยีความคิด สร้างสรรค์และนวัตกรรม โดยมีนักบัญชีเป็นหนึ่ง ในกลุ่มเป้าหมายหลัก ซึ่งผลักดันให้มีเทคโนโลยีทางการเงิน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและรวดเร็วยิ่งขึ้น  ทั้งนี้กรมสรรพากร เปิดให้บริการระบบภาษีและเอกสารธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งประกอบด้วย 3 ระบบดังนี้

ระบบ e-Withholding Tax เป็นระบบงานที่เปิดให้ผู้จ่ายเงินได้ฯ ที่จ่ายผ่านธนาคาร มีหน้าที่หักภาษีและนำส่งต่อธนาคาร ทันทีที่มีการจ่ายเงิน และให้ธนาคารรับเงินและส่งเงินรวมทั้งส่งข้อมูลหักภาษี ณ ที่จ่ายให้กรมสรรพากร
 

          ระบบ e-Tax Invoice/e-Receipt เป็นระบบที่คู่ค้าส่งข้อมูลใบกำกับภาษีหรือใบเสร็จรับเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่กัน แล้วต้องส่งให้กับกรมสรรพากรด้วย และกรมสรรพากรกำลังจะพัฒนาระบบจัดทำรายงานภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นรายตัว ผู้ประกอบการ ซึ่งระบบนี้เอกสารจะอยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์แทนกระดาษ และจัดเก็บบนระบบคอมพิวเตอร์ของ ผู้ซื้อ ผู้ขาย และกรมสรรพากร
 

          ระบบ e-Filing เป็นระบบการชำระภาษีผ่านทางอินเทอร์เน็ตของกรมสรรพากร ทดแทนการยื่นด้วยกระดาษ

นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีที่นักบัญชียุคใหม่ควรศึกษาและเรียนรู้เพิ่มเติม ได้แก่ 

          1. AI เป็นเทคโนโลยีที่ฉลาด คิดและทำงานเองโดยอัตโนมัติ โดยในส่วนงานบัญชี AI เข้ามามีบทบาทโดยเฉพาะกับโปรแกรมสำเร็จรูปทางการบัญชี เพราะ AI จะช่วยในการบันทึกบัญชี และจัดทำรายงานภาษีโดยอัตโนมัติด้วยความรวดเร็ว ถูกต้องและแม่นยำ 

          2. Cloud Accounting เป็นระบบบัญชีออนไลน์ นักบัญชีสามารถประมวลผลข้อมูล และจัดเก็บข้อมูล ตามความต้องการได้ทุกที่ไม่จำเป็นต้องทำงานแค่ในออฟฟิศอีกต่อไป 

          3. Cybersecurity เป็นระบบรักษาความปลอดภัยจากการโจรกรรมข้อมูลทางไซเบอร์ ซึ่งระบบนี้ปลอดภัยมากกว่าการใช้รหัสผ่าน 

จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำงาน การมีเทคโนโลยีหลายๆ อย่างเข้ามาแทนที่เพิ่มความสะดวกในการทำงาน ลดเวลา ลดค่าใช้จ่าย ทำให้นักบัญชีมีเวลาไปพัฒนาตนเองในด้านอื่น ๆ นักบัญชีควรหมั่นเรียนรู้เพื่อเพิ่มโอกาสสู่ความก้าวหน้าในหน้าที่การทำงานในอนาคตโดยการปรับตัวเข้าสู่การเป็นนักบัญชียุคดิจิทัล