ผลงานทางวิชาการ

เริ่มแล้วสำหรับการขยับและปรับตัวสู่สมรภูมิธุรกิจดิจิทัล (Digital Business) อย่างแท้จริงสำหรับตลาดค้าปลีก Walmart ได้ทำการประกาศร่วมมือกับทาง Google ในการเปิดบริการ Google Express ซึ่งเป็นการให้บริการส่งสินค้าเพื่ออำนวยความสะดวกในการสั่งสินค้าให้ลูกค้า (ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง Target ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่อีกรายในสหรัฐอเมริกา และ Costco ผู้ดำเนินธุรกิจค้าส่งรายใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับทาง Google Express ไปแล้ว)
 
โดยการร่วมมือกับทาง Google Express ในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่ที่สุดหลังจาก Walmart ได้มีปลดพนักงานของตนเองไปก่อนหน้านี้ และเป็นการแสวงหาทางออกและอยู่รอดของธุรกิจค้าปลีกที่จำเป็นต้องมีการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีในการดำเนินธุรกิจ
 
Warmart จะได้รับประโยชน์จากทาง Google Express ในการสั่งสินค้าผ่านอุปกรณ์ของทาง Google คือ Google Home (คู่แข่งรายสำคัญของ Alexa – Amazon Dash / Amazon Echo ของทางฝั่ง Amazon) ที่ลูกค้าสามารถสั่งสินค้าผ่านอุปกรณ์นี้ที่บ้าน โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปยังห้างสรรพสินค้า ซึ่งลูกค้าสามารถเข้าถึงและเลือกสั่งซื้อสินค้าจากชั้นวางสินค้าของ Walmart ผ่านทางออนไลน์ หรือแม้แต่จะทำการสั่งสินค้าด้วยเสียงของลูกค้าก็ตามโดยสินค้าสั่งไว้ก็จะมาส่งถึงบ้าน โดยจะฟรีค่าส่งถ้าสั่งสินค้าถึงปริมาณที่กำหนดตามเงื่อนไข
 
ความร่วมมือในครั้งนี้ทำให้ธุรกิจค้าปลีกอื่น ๆ จำเป็นต้องหากลยุทธ์และแนวทางในการปรับตัวเพื่อความอยู่รอด เนื่องจากโลกในการธุรกิจได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง การดำเนินธุรกิจในรูปแบบเก่า ๆ หรือแม้แต่การทำ E-Commerce ในรูปแบบเก่า ๆ แค่บนเว็บไซต์ Facebook คงไม่เพียงพออีกต่อไป
 
ดังนั้นธุรกิจที่จะเน้นแค่การนำเสนอขายสินค้าคงไม่เพียงพอ แต่ต้องกลายเป็นการอำนวยความสะดวกในการซื้อสินค้าให้กับลูกค้า
 
ซึ่งคงจะต้องคอยติดตามกันดูว่าบริษัทที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำทางนวัตกรรมอย่าง Google และ ผู้นำทางด้าน Logistic และ Supply Chain จะสามารถต่อกรกับทาง Amazon ที่กลายมาเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ในธุรกิจค้าปลีก (แต่รายใหญ่และพร้อมในทุก ๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี Logistic และ Supply Chain และ ฐานลูกค้า) ได้มากน้อยเพียงใด
 


โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อนุพงศ์ อวิรุทธา
หัวหน้าสาขาวิชาการจัดการธุรกิจดิจิทัล
คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม