เส้นทางอาชีพบนเรือสำราญระดับโลก “Princess Cruises”ของ พี่เร #Dekวทบ.
มากกว่าเงินคือประสบการณ์มากกว่างานคือกำไรชีวิต!
กับเส้นทางอาชีพบน “เรือสำราญระดับโลก” Princess Cruises
สวัสดีค่ะ “พี่เร” เรวดี ราศิริ ศิษย์เก่า สาขาการจัดการบริการธุรกิจเรือสำราญ รุ่นที่ 2 รหัส 58 วิทยาลัยการท่องเที่ยวและการบริการ ก่อนหน้านี้ทำงานบนเรือสำราญอยู่แล้วการเปลี่ยนบริษัทครั้งนี้ มีการเปลี่ยนแปลงด้านใดบ้าง เพราะอะไรถึงตัดสินใจเปลี่ยนบริษัทเรือและความแตกต่างของเรือทั้ง 2 ลำ เป็นยังไงบ้าง?
ยืน 1 เรื่อง เรือสำราญ ต้อง SPU เท่านั้น
ต้องขอเท้าความก่อนว่าบริษัทเก่าคือเรือสำราญ MV Leisure World ค่ะ เส้นทางเดินเรือจะอยู่แค่เอเชีย เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เพราะจากสถานการณ์โควิดเลยจำกัดเส้นทางการเดินเรือ แต่ปกติแล้วเรือเก่าจะไป หลายประเทศ เหมือนกัน สาเหตุที่เปลี่ยนบริษัทเรือเพราะอยากไป ทำงานในฝั่งยุโรปค่ะ
แต่สิ่งที่สำคัญเลยคืออยากหาประสบการณ์ใหม่ๆ และเปลี่ยนฐานเงินเดือนให้สูงขึ้นค่ะ ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนมาเป็นพนังงานของบริษัท Princess cruises เส้นทางเดินเรือจะมากกว่า 380 เส้นทางเดินเรือ หรือ 7 ทวีป เช่น Alaska Australia, New Zealand, Canada, California, Hawaii, Caribbean, Mexico, Europe และอีกหลายเส้นทางทั่วโลก
ต้องมีทักษะหรือ Upskill อะไรใหม่ๆบ้าง?
สำหรับเรทักษะใหม่ๆที่ต้องพัฒนาหลักๆเลยคือ ภาษาอังกฤษ การ พูด ฟัง อ่าน เขียน ต้อง อัพเกรดให้ดีกว่าเดิม ส่วนเรื่องของการบริการก็ต้องเป็น Professional มากกว่าเดิมค่ะเพราะเรามีคู่แข่งเพิ่มมากขึ้น ไม่ใช่แค่เอเชีย แต่เป็นทั่วโลก เรื่องการปรับตัวใช้ชีวิตบนเรือเป็นสิ่งที่สำคัญมากค่ะ เราต้องทำงานร่วมกับ ชาวยูโรเปียน ไหนจะเรื่องหัวหน้าเราที่จะมีความ Professional มากกว่าซึ่งแน่นอน ทำงานบนเรือที่ใหญ่ระดับโลก ต้องมีความ Professional เราจะมีความกดดันที่มากขึ้น ต้องรับมือกับความกดดัน และ ความเครียดให้ได้
เงินดีมาก แต่ต้องแลกกับ......ไม่มีวันหยุด?
ใช่ค่ะ “บนเรือสำราญไม่มีวันหยุด” ทำงานทุกวันทำวันละ 10 ชม. ขั้นต่ำนี่เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องแลกมา เรถือว่าเป็นการฝึกความอดทนของเรา ถ้าเรากลับมาแล้วเจออะไรที่กดดัน หรือเหนื่อยๆที่ประเทศไทย บอกเลยว่ามันจะกลายเป็นเรื่องเล็กมากๆ แต่ใช่ว่างานจะไม่มีหยุดสะทีเดียวนะคะ
บนเรือเขาจะมีช่วงที่พักจอดเรือตามประเทศที่เราไป ช่วงนั้นเราสามารถที่จะลงไปเที่ยวกับเพื่อน ไปสังสรรค์ ไป Shopping หรือถ้าไม่อยากลงไปเที่ยว ก็ทำกิจกรรมบนเรือได้เลยค่ะ บนเรือมีกิจกรรม และสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะมาก
2-3 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์การระบาดของ Covid-19 ทำให้เกิดผลกระทบอย่างไรกับธุรกิจเรือสำราญ และมีการปรับตัวอย่างไรบ้างทั้งตัว "เร" เองและบริษัทเรือ
2-3 ปี ที่ผ่านมานี้โควิดสร้างความเดือดร้อนให้กับธุรกิจเรือสำราญเป็นอย่างมากเลยค่ะ เรือหลายลำต้องปิดตัวลงเพราะทนพิษเศรษฐกิจจากโควิดไม่ไหว กรณีที่บริษัทหยุดการเดินเรือเรสามารถ นำประสบการณ์ Certification ที่ผ่านมาไป apply กับ บริษัทอื่นๆที่เปิดรับพนักงานอยู่ได้ซึ่งแน่นอน มีหลายบริษัท หลายเส้นทางการเดินเรือหลายทวีปเราอาจจะได้ตำแหน่งที่ดีกว่าและเงินเดือนที่สูงกว่าอย่าง บริษัทเก่าของเรเจอผลกระทบจากโควิดจึงหยุดการเดินเรือ เรก็ดำเนินการสมัครเรือใหม่ จนสัมภาษณ์ผ่านเป็นลูกเรือของ Princess Cruise ได้ตำแหน่งที่ดีกว่าและเงินเดือนที่สูงขึ้น อีกทั้งเส้นทางเดินเรือใหม่ๆ หากกรณีที่บริษัทดำเนินธุรกิจอยู่แล้วในช่วงสถานการณ์โควิด ทางบริษัทจะมี มาตรการ รักษาความปลอดภัยเรื่องของโควิด มีการอบรมให้พนักงานเรื่องการรับมือ และป้องกันตัวเองจากโรคอีกทั้งในส่วนของลูกค้าเองก็มีมาตรการที่เข้มงวดก่อนที่จะมาใช้บริการบนเรือ เพื่อความปลอดภัยของพนักงานทุกคนค่ะ
ทิศทางของธุรกิจเรือสำราญในช่วงนี้เป็นอย่างไร?
ธุรกิจด้านเรือสำราญกำลังกลับมาเติบโตมากค่ะ ถึงแม้จะมีผลกระทบจาก สถานการณ์โควิดบ้างแต่ มาตรการจัดการและการรับมือของบริษัทเรือต่างๆ นั้นเข้มงวด และมีมาตรฐานมาก ซึ่งลูกค้าและพนักงานวางใจได้เลยค่ะว่าจะได้รับความปลอดภัยอย่างแน่นอน และที่สำคัญมีข่าวดีตอนนี้
หลายบริษัทเรือเริ่มเปิดรับสมัครพนักงานที่เป็นคนไทยมากขึ้นด้วยค่ะ เพราะคนไทยเราจะมีการบริการที่เป็นเอกลักษณ์และน่าสนใจในสายตาชาวต่างชาติ และเป็นที่หมายตาของหลายๆบริษัท รายได้แต่ละเดือนบอกเลยว่าหาในไทยคงยากมากๆ ถ้ากรณีเด็กจบใหม่ ขั้นต่ำเลย ไม่น้อยกว่า 30,000 – 40,000 บาท ต่อเดือน (ยังไม่รวมทิป)
มากกว่างาน คือกำไรชีวิต
ในมุมของเรมันคุ้มค่ามากแล้วค่ะที่ได้มาทำงานบนเรือ เราได้เที่ยวรอบโลก ได้ไปในที่ที่เราไม่เคยไป ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่ตลอด เรียนรู้การใช้ชีวิตคนเดียวในที่ห่างไกลครอบครัว การเอาตัวรอด ตอนออกไปบินต้องใช้เวลาเกือบปีหรือมากว่านั้น เรได้พบเพื่อนร่วมเดินทางใหม่ๆ ได้แลกเปลี่ยนความคิดและมุมมองที่แปลกออกไป อะไรที่เราไม่เคยเห็นก็ได้เห็น ในทุกๆวันมีความตื่นเต้นเกิดขึ้นอยู่เสมอค่ะ มันทำให้เราได้มองโลกที่กว้างออกไปอีก
สนใจอยากเรียนธุรกิจเรือสำราญ แต่กลัว....ตกงาน!
อยากบอกน้องๆว่า ไม่ – ต้อง – กลัว เพราะการท่องเที่ยวไม่มีวันตายค่ะ พี่จะเล่าให้น้องๆฟังว่าพี่เองเป็นเด็กยากจนจากต่างจังหวัดตัดสินใจมาศึกษาต่อที่กรุงเทพ คนเดียวโดยที่ไม่มีใครซัพพอร์ตเลย ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย มันยากมากเลยกว่าจะผ่านมาได้
แต่พี่มีแรงผลักดันอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็น กำลังขับเคลื่อนให้พี่ไม่ท้อ และเดินตามความฝัน คือ พี่อยากใช้ชีวิตทำงานอยู่ต่างประเทศ ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุผลทำไมพี่ถึงเรียน สาขา การจัดการการบริการ ธุรกิจเรือสำราญ และตอนนี้ความฝันพี่เป็นจริงแล้วพี่ได้ทำในสิ่งที่พี่ฝัน ทุกคนก็ทำได้ ขอแค่มีความพยายาม อย่าท้อ อย่ากลัวที่จะใช้ภาษาอังกฤษ อย่ากลัวที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ถ้าวันนั้นพี่กลัว พี่คงไม่ผ่านสัมภาษณ์ ทั้งๆที่ตอนนั้นพี่เป็นแค่นักศึกษาฝึกสหกิจปี 4 แต่พี่ก็สัมภาษณ์ผ่านจนได้ทำงานบนเรือสำราญระดับโลก จนถึง ปัจจุบัน