เก่งครบ “ด้านภาษา” ใช้ทักษะภาษาเป็นประตูสู่ความสำเร็จ แบบรุ่นพี่ศิลปศาสตร์ SPU
PROFILE :
คุณแอน – ปิยะภัทร์ สุวรรณสังข์
คณะที่เรียนจบ : คณะศิลปศาสตร์
สาขาที่สานฝัน : ภาษาอังกฤษสื่อสารธุรกิจ
ศิษย์เก่าปี : 46
เก่งไม่แพ้ใครด้าน : ภาษาอังกฤษ / การเจรจาต่อรอง / การสื่อสาร
พี่แอน ตัวจริงด้านภาษาอังกฤษ
สวัสดีน้องๆ ทุกคนค่ะ พี่ชื่อแอน ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผู้ถือหุ้นบริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นธุรกิจผู้นำด้านการบริหารจัดการระบบไฟฟ้าและพลังงานของประเทศ ดำเนินธุรกิจอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ MRI ค่ะ
เป้าหมายชีวิตทำให้เลือกเรียนได้ตรงความชอบ
พี่แอนเป็นคนที่ชอบภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เด็กแล้ว และมีความใฝ่ฝันอย่างชัดเจนเลยว่าอยากเป็นนักธุรกิจ จึงค้นหาว่ามีคณะสาขาอะไรบ้างที่ตอบโจทย์เป้าหมายของตัวเองได้ จนมาเจอคณะศิลปศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษสื่อสารธุรกิจ ที่ ม.ศรีปทุม จึงได้เรียนในสิ่งที่ตอบโจทย์ความฝันของตัวเองค่ะ
ภาษาคือประตูบานแรกของโอกาส
พี่แอนมองว่าในโลกของการทำงาน ไม่ว่าจะยุคไหนภาษาอังกฤษนั้นสำคัญมาก การที่เราสามารถสื่อสารภาษาที่ 2 ได้จะทำให้เราเติบโตในหน้าที่การงานและได้ตำแหน่งงานที่ดีกว่า แต่พี่แอนมองว่ายุคนี้ภาษาอังกฤษเริ่มไม่พอแล้ว ภาษาจีนก็เริ่มเป็นสิ่งสำคัญดังนั้นหากใครอยากเพิ่มภาษาที่ 3 พี่แอนจึงแนะนำภาษาจีนค่ะ ส่วนใครอยากเติบโตในหน้าที่การงานหากมีทักษะด้านภาษาอยู่แล้ว ก็เสริมความตั้งใจ ความใฝ่เรียนรู้ เราก็จะมีโอกาสเติบโตในตำแหน่งหน้าที่ของเราแน่นอนค่ะ
SPU โอกาสแรกที่พี่แอนได้เลือกเอง
อย่างแรกพี่แอนต้องขอขอบคุณอาจารย์ทุกท่านที่ให้โอกาสในการทำกิจกรรมต่างๆ และทำให้พี่แอนได้เรียนรู้ประสบการณ์ทั้งยังได้สกิลติดตัวมาไม่น้อย ยิ่งสาขาวิชาที่พี่แอนเลือก บอกเลยว่าช่วยทำให้ความฝันของพี่สำเร็จ เหมือนเราวางแผนชีวิตมาถูกต้องเลยค่ะ เพราะวิชาที่เรียนสามารถนำมาใช้งานได้จริงทั้งนั้น
เคล็ดลับในการไขว่คว้าโอกาสฉบับพี่แอน
หลังจากเรียนจบที่ ม.ศรีปทุม ด้วยความที่พี่มีทักษะทางด้านภาษาอังกฤษจึงไม่อยากทิ้งทักษะด้านนี้ และตัดสินใจทำงานที่ได้ใช้ทักษะด้านภาษาอย่างต่อเนื่อง นั่นคือตำแหน่ง Customer Service ที่โรงพยาบาลบีเอ็นเอช ซึ่งมีลูกค้าต่างประเทศมาใช้บริการจำนวนมาก และเป็นกลุ่มลูกค้า VIP ซึ่งในจุดนี้พี่ได้รับทักษะทั้งด้านภาษาและได้คอนเนคชั่น จึงมีผู้ใหญ่เชิญไปทำงานบริษัทด้านพลังงาน ในตำแหน่ง Sales and marketing ภายในระยะเวลา 3 ปี จึงได้ขึ้นเป็นตำแหน่งผู้จัดการ ซึ่งเคล็ดลับการทำงานของพี่ คือพยายามทำทุกงานให้ดีที่สุด หมั่นเรียนรู้งานใหม่ๆ แม้จะไม่ใช้ในตำแหน่งงานของตัวเอง จากนั้นพี่แอนก็เริ่มแบ่งเงินเดือนส่วนหนึ่งไปซื้อหุ้นในบริษัทเพราะเราอยากเป็นหุ้นส่วนในองค์กร ซึ่งจุดนี้พี่แอนมองว่ายิ่งเราเป็นพาทเนอร์กับบริษัทเราจะยิ่งทุ่มเทหน้าที่ของตัวเองได้เต็มที่
โอกาสคือประตูสู่ความสำเร็จ
เมื่อมีโอกาสเข้ามาในชีวิต พี่แอนจึงตัดสินใจย้ายงานใหม่ซึ่งได้เงินเดือน 6 หลัก อีกทั้งยังเป็นตำแหน่งงานที่ได้เจอโอกาสทางด้านธุรกิจหลากหลาย ได้ดีลงานสำคัญต่างๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศ ด้วยความที่พี่ทำงานด้วยความตั้งใจ จึงทำให้คนรอบข้างอยากซัพพอร์ตเรา จึงออกมาสร้างธุรกิจกับเพื่อนที่เป็นพาร์ทเนอร์กัน ซึ่งเป็นธุรกิจด้านพลังงานและเราก็มีคอนเนคชั่นด้านนี้อยู่แล้ว
และรู้สึกว่าธุรกิจพลังงานนั้นมีความน่าสนใจและท้าทายมากกว่าธุรกิจด้านอื่น หลังจากทำไปสักระยะหนึ่งด้วยความที่เราอยากมีบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ จึงทำการศึกษาและนำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ได้สำเร็จ เราจึงกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทและเป็นกรรมการบริษัท กรรมการบริหาร จนในที่สุดได้เป็น CEO ของบริษัทค่ะ ซึ่งบริษัทนี้มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดภายใน 5 ปี ด้วยความที่เรามุ่งมั่นและไขว่คว้าโอกาสอยู่เสมอ
ผู้บริหารขอแนะนำ สกิลที่เด็กยุคนี้ต้องมีติดตัว
พี่แอนมองว่าสกิลการสื่อสารนั้นสำคัญมาก บางคนเก่งแต่ไม่กล้าสื่อสารออก หรือเก่งแต่ไม่กล้าพรีเซ้นต์ออกมาคนอื่นก็ไม่สามารถรับรู้ได้ และอีกสิ่งหนึ่งคือการทำงานในองค์กรนั้นเป็นการทำงานแบบทีม ยิ่งเกิดการสื่อสารที่ดีก็ยิ่งดีกับตัวองค์กรเอง ดังนั้นอีกสกิลที่สำคัญคงหนีไม่พ้นทักษะด้านการเจรจาต่อรอง การตัดสินใจ การแก้ไขปัญหา ที่หากใครอยากขึ้นมาอยู่ตำแหน่งงานที่สูงขึ้นย่อมจำเป็นที่ต้องมีทักษะเหล่านี้
เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ “หากโอกาสไม่วิ่งเข้ามา ก็วิ่งไปหาโอกาสเอง”
พี่แอนเป็นคนให้ความสำคัญกับคำว่าโอกาสมาก เพราะเป็นคนที่เปิดโอกาสให้ตัวเองอยู่เสมอ ถือเป็นคติในการใช้ชีวิตเลยค่ะ เพราะไม่ว่าจะเรื่องอะไรถ้ามีโอกาสเข้ามาแล้วเราประเมินว่าโอกาสนั้นมีความเสี่ยงน้อยกว่าพี่แอนก็จะคว้าโอกาสนั้นไว้อย่างไม่ลังเล แต่หากชีวิตเราไม่มีโอกาสเข้ามาล่ะ เราก็ต้องพยายามเปิดประตูหาโอกาสเองค่ะ
วางเป้าหมายชีวิตให้ชัดเจน ลองเป็นผู้เลือกในสิ่งที่ตอบโจทย์ ก็จะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก
น้องที่ผิดหวังจากการสอบ TCAS ไม่ต้องกังวลนะคะ เพราะการที่เราจะประสบความสำเร็จในชีวิตไม่ได้ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัยที่เราเลือกแต่ขึ้นอยู่กับตัวเราด้วยค่ะ ไม่ว่าเราจะเรียนที่ไหนแต่ตัวตนของเรานั้นมีความตั้งใจอยู่ที่ไหนก็ประสบความสำเร็จได้ทั้งนั้นค่ะ ดังนั้นมหาวิทยาลัยเอกชนก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีไม่แพ้ใคร ยิ่งกับ ม.ศรีปทุม พี่แอนมองว่ามีสาขาที่ตอบโจทย์การทำงานได้จริงเยอะมากค่ะ น้องๆ ควรวางเป้าหมายก่อนดีกว่าว่าเรียนจบแล้วเราอยากทำงานอะไร นั่นจะเป็นคำตอบที่เราสามารถวางแผนการเรียนได้อย่างตอบโจทย์ค่ะ และเมื่อเข้าไปอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยแล้วให้เรียนรู้และทำกิจกรรมให้มากที่สุด เราจะได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์เยอะที่สุดค่ะ