นักกีฬาห้ามพลาด! SPU มีทุนดีๆ รอให้มาคว้าฝันกันอยู่นะ
รู้ไหม SPU มีทุนสำหรับนักกีฬาโดยเฉพาะเลยนะ! น้องๆ คนไหนที่เป็นเด็กสายกีฬาเรียกว่าอย่าพลาดคอลัมน์นี้เลยล่ะ เพราะเราจะมาเล่าเรื่องทุนเด็กกีฬาให้แบบเข้าใจง่าย ได้ทุกคำตอบ โดย ดร.โสภิต ภาโนมัย รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยศรีปทุม มาให้คำแนะนำด้วยตัวเอง ใครอยากรู้ ต้องรีบมาอ่านกันเลย!
จุดเริ่มต้นของทุนนักกีฬา SPU
ทุนนักกีฬาของมหาวิทยาลัยศรีปทุมของเรา เริ่มจัดตั้งในปี พ.ศ. 2528 ซึ่งถือเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งแรกๆ ที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อเปิดโอกาสให้นักกีฬาทีมชาติและนักกีฬาที่มีความสามารถ เข้ามาศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา และฝึกฝนต่อยอดนักกีฬาที่มีความสามารถ เพื่อดึงศักยภาพของแต่ละคนมาพัฒนาหล่อหลอมให้เป็นนักกีฬาทีมชาติ หรือนักกีฬาอาชีพต่อไปในอนาคต ด้วยความที่เราเปิดโอกาสทุนทางด้านกีฬายุคแรกเริ่ม จะเห็นได้ว่านักกีฬาทีมชาติส่วนใหญ่นั้น จะเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยศรีปทุม ในช่วงเวลานั้น
เก่งกีฬาก็มา มีความสามารถเรารับ!
ดร.สุข พุคยาภรณ์ ผู้ก่อตั้ง มหาวิทยาลัยศรีปทุมมีปรัชญาว่า “การศึกษาสร้างคน คนสร้างชาติ” ที่เปรียบเสมือน “กีฬาสร้างคน คนสร้างชาติ” จึงต้องการส่งเสริมให้เด็กที่มีความโดดเด่นด้านทักษะกีฬา ได้รับการพัฒนาควบคู่ไปกับด้านวิชาการ และมีโอกาสเติบโตในอนาคต เราจึงเปิดโอกาสด้านทุนนักกีฬาให้เด็กๆ กลุ่มนี้ สามารถแข่งขันกันในด้านกีฬาเป็นหลัก เพื่อพัฒนาต่อยอดความสามารถด้านกีฬาของเด็กแต่ละคนให้โดดเด่นและไปสู่ความเป็นมืออาชีพ
ทุนนักกีฬามีกี่ประเภท?
ทุนนักกีฬามี 2 ประเภท คือประเภททีม และประเภทบุคคล ซึ่งประเภททีม เราจะรับพิจารณากีฬา ดังนี้ บาสเกตบอล วอลเลย์บอล ส่วนในประเภทบุคคล เราจะดูที่ความสามารถเป็นหลัก ถ้าผู้สมัครมีคุณสมบัติตามที่เราตั้งเกณฑ์เอาไว้ เช่น นักกีฬาจะต้องมีดีกรีได้รางวัลหนึ่งในสามของการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ กีฬาเยาวชนแห่งชาติ กรมพลศึกษา หรือดีกรีทีมชาติ ประกอบกับการดูประวัติการแข่งขันที่ผ่านมา รวมทั้งวุฒิการศึกษาของผู้สมัครควบคู่กันไป
ทุนนักกีฬาพิจารณาจากอะไรบ้าง?
สำหรับน้องๆ ที่เรียนอยู่มัธยม เชื่อว่าทุกคนมีเส้นทางกีฬาเป็นของตนเองอยู่แล้ว ขอให้ปรึกษากับโค้ชในทีมหรือผู้ปกครองของตัวเอง เพื่อสอบถามข้อมูลเบื้องต้นในการสมัครทุนนักกีฬากับทาง SPU หรือเข้ามาสมัครทุนนักกีฬากับเราโดยตรง ซึ่งเราจะพิจารณาเกณฑ์ตามที่ได้แจ้งไว้ รวมถึงพิจารณาจากรางวัลต่างๆ ที่นักกีฬาได้รับ เช่น กีฬาเยาวชนแห่งชาติ กีฬาแห่งชาติ และกีฬากรมพลศึกษา ทั้ง 3 ระดับนี้จะเป็นเกณฑ์พิจารณา
การปั้นเด็กกีฬาสไตล์ SPU
ในการคัดเลือกนักกีฬา เราจะพิจารณาเลือก 2 ลักษณะ คือเด็กที่เป็นนักกีฬามืออาชีพอยู่แล้ว และเด็กที่เป็นนักกีฬาช้างเผือก ซึ่งอาจจะยังไม่มีชื่อเสียง เราจะสนับสนุนต่อยอด ทั้งนี้ เราจะมีโค้ชคอยเป็นแมวมองหาน้องๆ เหล่านี้ เข้ามาเรียนและเรายังมีโรงเรียนที่เป็นเครือข่ายพันธมิตรเป็นอะคาเดมี่สอนกีฬาที่เราทำความร่วมมือและสนับสนุนทุนไว้ อย่างเช่น วอลเลย์บอล บาสเกตบอล กอล์ฟ เราก็จะมีเครือข่ายพันธมิตรเป็นศูนย์ฝึกอะคาเดมี่ เช่น โรงเรียนหนองเรือวิทยา โรงเรียนสตรีอ่างทอง โรงเรียนอัสสัมชัญโคราช ในส่วนกีฬาประเภทบุคคล เราประสานกับผู้ฝึกสอน สมาคมกีฬาคอยดูแล เพื่อปั้นให้เด็กกลุ่มนี้ หากเป็นเด็กนักกีฬาช้างเผือก เราจะติดต่อสมาคมกีฬา/สโมสรให้นักกีฬา เพื่อที่จะปั้นเด็กกีฬาทีมเราให้เก่งขึ้น เด็กคนไหนที่มีศักยภาพสูงและตัดสินใจเข้าอยู่กับสโมสรใหญ่ๆ เราก็จะสนับสนุนให้เขาไปตามที่ฝัน
บริหารจัดการได้ ก็สำเร็จได้
ผมมองว่าความสำเร็จของเราคือการบริหารจัดการ และวางแผนกลยุทธ์ด้านกีฬา วิเคราะห์สถานการณ์ในการใช้งบด้านกีฬาให้เหมาะสมสร้างแรงจูงใจนักกีฬาให้เกิดความมุ่งมั่นในความสำเร็จ สามารถดึงศักยภาพนักกีฬาออกมาสูงสุด โดยเฉพาะการสร้างทีมสปิริตจะนำไปสู่ความสำเร็จเป็นสำคัญของนักกีฬา
อยากเป็นนักกีฬามืออาชีพเริ่มอย่างไร?
สิ่งแรกที่ต้องมีคือใจรักและความมุ่งมั่นครับ ความรักและความมุ่งมั่นที่จะเล่นกีฬาจะทำให้เราประสบความสำเร็จ จากนั้นอย่าลืมวางแผนอนาคตให้ตัวเอง ว่าจะไปในทิศทางไหน เช่น วางเป้าหมายไว้ว่าจะต้องติดทีมชาติและเดินไปสู่นักกีฬาอาชีพให้ได้ พอเราตั้งเป้าแล้วก็ต้องอย่าลืมที่จะขยันฝึกซ้อม ซึ่งบอกเลยว่าวินัยและความรับผิดชอบเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะถึงแม้คุณจะมีโค้ชหรือผู้ฝึกสอนมาควบคุมดูแล แต่การจะเป็นนักกีฬาที่ดีจะต้องมีวินัยในตัวเองด้วย อย่าลืมหายใจเข้าออกคิดถึงเป้าหมายที่ตัวเองวาง อีกอย่างนอกจากการฝึกซ้อมคือการวางแผนการเล่นกีฬาหรือแข่งขันในแต่ละแมตช์ จากนั้นก็มานั่งวิเคราะห์การเล่นของตัวเองว่าเป็นอย่างไรบ้าง และคอยพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา ในด้านการเรียนเอง เราก็ต้องมีความรับผิดชอบ ซึ่งต้องทำควบคู่กันไปทั้งสองสิ่ง
สำหรับน้องๆ ที่สนใจสมัครทุนนักกีฬา
สอบถามรายละเอียดได้ที่
สำนักงานการกีฬา กลุ่มงานกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยศรีปทุม
อาคาร 10 ชั้น 5 ห้อง 504
โทร : 02-5791111 ต่อ 2136, 2390 เวลา 8.30 – 16.30 น.
