SHOW CASE

Our Alumni: Chalida Saitho

ชลิดา  สายโท (ปุ้ม)
มัธยมศึกษาตอนปลาย: โรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี พิษณุโลก
Diploma Degree : I-TIM (International Hotel and Tourism Industry Management School)
ศิษย์เก่า SIC สาขา International Hospitality Management

ปัจจุบัน: Pastry Intern Chef at Mohegan Sun Casino Hotel in Connecticut, USA
 
การเรียนด้วยภาษาอังกฤษเป็นอย่างไรบ้าง:
          ช่วงแรกจากเด็กนักเรียนไทยปกติเข้ามาเรียนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดต้องบอกว่ารู้สึกว่ายากและกลัวมาก ขนาดเรียนภาษาไทยยังกลัวแล้วภาษาอังกฤษล่ะไม่ต้องพูดถึง เราว่าทุกครั้งที่เรียนกับอาจารย์คนต่างชาติทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นกล้าๆ กลัวๆ ฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่เรามีความเชื่อว่าฝึกไปเรื่อยๆ อย่างสม่ำเสมอและตั้งใจยังไงก็ต้องดีขึ้นแน่นอน เพราะมันไม่มีทางลัด ทุกอย่างต้องใช้เวลา
          แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นจากความชอบส่วนตัวและอยากเก่งภาษาอังกฤษ ทุกครั้งที่เราจะต้องเลือกอะไรในชีวิต จะถามตัวเองว่านี่คือสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุขจริงๆ ใช่ไหม? อย่างเช่นตอน ม. 6 ตอนเราเลือกสาขาที่จะเรียนต่อ เราก็ลองจินตนาการภาพตัวเองตอนเรียนจบแล้วเข้าทำงานดู หลังจากนั้นเราก็ทำ research ฉบับย่อๆ แบบเด็กๆ โดยการไปถามคนที่ทำงานในสายงานนั้นว่ามันตรงกับภาพในหัวที่เรามโนไว้รึป่าว เราอยากมีชีวิตแบบนั้นรึเปล่า? เราก็ค้นพบตัวเองจากการมองผ่านบุคลิก ลักษณะ นิสัย การใช้ชีวิตจริงๆ ว่าเราเหมาะกับสาขานี้ ที่สำคัญเราไม่เคยเลือกตามเพื่อน แล้ววิธีนี้มันก็ work สำหรับเรา ทำให้เรามาเรียนทุกวันอย่างมีความสุข

เก่งภาษาอังกฤษมาก่อนไหม:
            รู้ตัวเองมาตั้งแต่เรียนมัธยมแล้วว่าไม่ค่อยเก่งภาษา ง่ายๆ เลยเกรดวิชาภาษาอังกฤษต่ำที่สุดเทียบกับวิชาอื่นๆ เอาเป็นว่าวันแรกของการเรียนในวิทยาลัยนานาชาติ อาจารย์ให้ออกไปแนะนำตัวหน้าห้องยังพูดคำว่า Hello ไม่ออกเลย คือก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าจะกลัวอะไรขนาดนั้น  แต่เรามีพี่สาวเป็น Idol เวลาเราเห็นเค้าคุยกับเพื่อนชาวต่างชาติรู้เรื่องเรารู้สึกว่ามัน cool อ่ะ แล้วโลกปัจจุบันมันเปลี่ยนไปอย่างที่ทุกคนรู้กัน  เลยตัดสินใจเปลี่ยนตัวเองใหม่ คือ ถ้าลองพูด1 ครั้งยังไม่ได้ ก็พูดเป็น 10 ครั้ง  ทำทุกอย่างมากกว่าคนอื่นอีก ทำการ
บ้านมากกว่าเพื่อน  รู้สึกว่าท้าทายและอยากเอาชนะตัวเอง ตอนนี้ก็ไม่ได้ว่าเก่งภาษาอังกฤษนะ แต่เราคิดว่าเรามาไกลมากจริงๆ 5555

ทำไมถึงกล้าเรียนภาคอินเตอร์:
            คำว่า “กล้า” ของเราคือ ไม่กลัวที่จะทำผิด  เรามองว่าการเรียนภาคอินเตอร์คือการจำลองสภาพแวดล้อมให้ตัวเราพัฒนาภาษาอังกฤษ ได้ลองผิดถูก และมีคนคอยช่วยแก้ให้มันถูก แล้วเป้าหมายของเราชัดเจนคือต้องสื่อสารภาษาอังกฤษได้ในระดับสากล แล้วจะให้สิ่งแวดล้อม สังคมเข้ามาหาเราหรอ? มันเป็นไปไม่ได้ ตัวเราต่างหากที่ต้องนำตัวเองเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมนั้นๆ แล้วที่นี้ยังจะต้องกลัวอะไรอีก?

พิชิตความกลัวภาษาอังกฤษอย่างไร
            ความกลัว มันทำลายได้ด้วยความกล้า ความกล้าจะเกิดขึ้นได้ก็จากการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ  ไม่กลัวที่จะ”ผิด”  การเรียนภาษาอังกฤษในแบบของเราคือสมมติตัวเองให้เป็นเด็ก แล้วเริ่มเรียนภาษาแบบเด็กๆ  ฟังไปจนชินหูแล้วลองพูดตาม พอพูดตามได้ก็พัฒนามาเป็นอ่าน พออ่านจนคุ้นตาก็จะเริ่มเขียนได้เอง เหมือนเราเรียนภาษาไทยตอนเด็กๆ เลย หากทำอะไรผิดก็ไม่ได้รู้สึกเขินอายอะไร ก็ตอนนี้เราเล่นเป็นเด็กฝรั่งอยู่จะทำไม? ไม่เห็นแปลก หลายคนชอบเอาความสามารถไปเปรียบเทียบกับคนอื่นแล้วมาดูถูกตัวเอง ทำให้กลัวที่จะพูดผิด เราก็เคยเป็นแบบนั้นมาก่อน แต่เปลี่ยนความคิดแค่นิดเดียวค่ะ เข้าไปถามเค้าว่าเลยว่าไงถึงเก่งขนาดนี้ และนั่นเป็นกำลังใจให้พัฒนาตัวเองไปได้ไกลกว่าที่คิด

ภาษาอังกฤษเปลี่ยนอนาคตเราอย่างไร
            โห. . มากมายนับไม่ถ้วนเลยค่ะ ยกตัวอย่างที่ได้มีโอกาสมาฝึกงานที่อเมริกา ได้ทำงานกับเชฟดังระดับนานาชาติ ได้เรียนรู้วัฒนธรรม ได้เพื่อนใหม่ๆ นอกจากประสบการณ์ในสายงาน Pastry chef แล้วก็ยังมีประสบการณ์ชีวิตที่เรียกว่าหาซื้อไม่ได้ด้วยเงิน ทั้งหมดนี้ก็เพราะเราเห็นความสำคัญของภาษาอังกฤษและพัฒนามันจนใช้มันให้เกิดประโยชน์กับชีวิตเราได้จริงๆ ในอนาคตเราก็ฝันอยากจะมีแบรนด์ขนมเป็นของตัวเองเป็นธุรกิจเล็กๆ ที่สร้างขึ้นจากความรักและประสบการณ์ที่เราสั่งสม และเชื่อว่าเพื่อนๆ จากทั่วโลกที่เราได้รู้จักเพราะเราพูดภาษาอังกฤษได้นั้นจะมีส่วนช่วยส่งเสริมอาชีพเราในอนาคตอย่างแน่นอน           

เก่งภาษาอังกฤษได้เปรียบอย่างไร / เรียนอินเตอร์ฯ ก้าวหน้าเร็วอย่างไร
            ขอตอบว่าได้เปรียบในทุกๆ ด้านของชีวิตค่ะ ทั้งโอกาสที่เพิ่มขึ้นทางการศึกษา การงาน และชีวิตส่วนตัว (สำหรับคนนิยมชายต่างชาติ 555) ทุกวันนี้ยังไงก็หนีภาษาอังกฤษไม่พ้นค่ะ และภาษาอังกฤษนี่หละช่วยเปิดโลกของเราให้กว้างขึ้น บางทีภาษาอังกฤษอาจจะไม่พอแล้วด้วยซ้ำไป ถามว่าเรียนอินเตอร์ฯก้าวหน้าเร็วอย่างไร? จริงๆ แล้วมันไม่มีทางลัด  แต่ต้องอดทน และพัฒนาจนเกิดประโยชน์  เปรียบเสมือนการขึ้นโทลเวย์ อาจจะต้องทำอะไรมากกว่าถนนปกติ แต่ก็คุ้มค่าที่เราถึงจุดหมายเร็วขึ้น
 
ทำไมถึงมาเรียนเลือกเรียนที่ SIC:
            ตอนแรกอาจารย์และรุ่นพี่ศิษย์เก่าจากสถาบันเดิม (I-TIM) แนะนำให้มาเรียน SIC เราก็เลยสนใจค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม  พบว่าที่นี่ตอบโจทย์เลย ประทับใจอาจารย์ ห้องเรียน บรรยากาศโดยรวม สื่อการเรียนการสอนถือว่าครบ โดยเฉพาะ Student Lounge สำหรับนักศึกษา  ไม่ได้มองว่ามันดูหรู ดูดี ดูเกร๋ หรืออะไร แต่มันคือสถานที่ที่เปิดโอกาสให้เราได้เรียนรู้อย่างอื่นที่นอกเหนือจากในห้องเรียน เราได้พูดคุยกับเพื่อนๆ ชาวต่างชาติและทำกิจกรรมต่างๆ แลกเปลี่ยนความคิด ซึ่งสำหรับเรามันคือประสบการณ์ที่คุ้มค่ามาก ยิ่งไปกว่านั้นห้องสมุดของมหาวิทยาลัยนั้นเราปลื้มมากเป็นพิเศษและพูดได้เลยว่าใช้อย่างคุ้มค่าเทอมที่สุด

แนะนำน้องๆ ที่สนใจเรียนอินเตอร์ฯ
         เราชื่นชมน้องๆ ที่สนใจเรียนอินเตอร์ฯ เพราะแสดงว่าน้องๆ มีภาพอนาคตตัวเองพอสมควร โดยส่วนตัวเราเองเราไม่ค่อยเชื่อคำพูดใครเท่าไร เราอยากเห็นน้องๆ รุ่นใหม่มองอนาคตและรับผิดชอบตัวเอง ควรต้องศึกษาหาข้อมูลเยอะๆ ถามจากคนที่มีประสบการณ์มาก่อน ถ้าจะให้เราแนะนำ ก็มาที่ SIC นี่แหละ มาดูให้มันรู้ไปเลยว่ามันจะใช่ มันจะโดนใจจริงๆ รึป่าว? ง่ายนิดเดียวเอง 555 แล้วถ้าประสบการณ์เรามันไปโดนใจน้องคนไหน อยากจะถามคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียนที่ SIC อีเมลล์หาเราได้ เรายินดีค่ะ และหวังว่าคำตอบจะช่วยน้องๆ ในการตัดสินใจได้