บริษัทที่ “คูล” ที่สุดในสายตาเด็กมหา’ลัย ต้องหนีไม่พ้น “บริษัทสตาร์ทอัป (Startup Company)” ที่ส่วนใหญ่แล้วมาพร้อมกับแนวคิดที่ทันสมัย มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน จนมีลูกค้ามากมาย และมูลค่าบริษัทพุ่งกระฉูดหลายร้อยหลายพันล้าน!

    ภาพทั้งหมดนี้เป็นความจริง (เพียงด้านเดียว) ของเฉพาะบริษัทสตาร์ทอัปที่มีการระดมทุนจากนักลงทุนมาได้แล้วหลายๆ ครั้ง จนสามารถขยายทั้งกิจการออกไปจนยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงไปทั่วโลก อาทิ Google Faceook GrabTaxi Uber Line ฯลฯ

    ดังนั้นโอกาสนี้ ผู้เขียนจึงอยากเล่าเบื้องหลังความเป็นจริงของการทำงานในบริษัทสตาร์ทอัปของไทย ที่ผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าร่วมวง เพื่อให้น้องๆ ทราบว่าเบื้องหลังการทำงานในบริษัทเทคโนโลยีที่เพิ่งก็ตั้งใหม่เป็นยังไง?

    ทำงานที่ไหนก็ได้ ขอแค่ได้เจอกันสัปดาห์ละวัน
        
        ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเริ่มแรกบริษัทสตาร์ทอัปที่ยังไม่ได้เงินลงทุน มักจะไม่มีออฟฟิศเป็นของตัวเอง เพราะนั่นหมายถึงการมีต้นทุนคงที่เป็นค่าเช่าที่ ค่าน้ำ ค่าไฟ  ที่ต้องจ่าย ทั้งๆ ที่บริษัทยังไม่มีรายได้ ดังนั้นบริษัทก่อตั้งใหม่จึงมักจะเลือกมุมในมุมหนึ่งของบ้านมาเป็นออฟฟิศ เพื่อลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ หากบ้านใหญ่ก็ยังจะพอที่จะเชิญผู้ก่อตั้งคนอื่นมาร่วมแชร์โต๊ะเก้าอี้กันได้ แต่ถ้าเล็กๆ ล่ะก็ ต่างคนต่างทำงานที่ตนเองถนัดกันไป ในเบื้องต้นบริษัทสตาร์ทอัปมีคนเพียง 3 คนก็เริ่มต้นได้แล้ว คนแรกคือ คนที่ทำด้านธุรกิจทั้งหมด คนที่สองทำด้านการออกแบบ คนที่สามทำด้านการเขียนโปรแกรม เมื่อ 3 คนนี้ทำงานร่วมกัน ก็จะได้ชิ้นงานเป็นเว็บ-แอปฯ ขึ้นมาได้ โดยปกติแล้ว หากผู้ก่อตั้งทุกคนทำงานจากบ้าน ก็มักจะนัดเจอกันสัปดาห์ละครั้งที่ร้านกาแฟต่างๆ เพื่อคุยอัปเดทงานและสานสัมพันธ์

     สำหรับเด็กฝึกงานอย่างเรา หากไปร่วมกับบริษัทสตาร์ทอัปที่เพิ่งก็ตั้ง จะมีข้อดีคือ ทราบถึงวิธีการแก้ปัญหา การทำงานทุกขั้นตอนอย่างละเอียด และได้ตีสนิทกับเจ้าของบริษัทด้วย 

     สำหรับเนื้อหางานของเด็กฝึกงานในบริษัทสตาร์ทอัประดับ Early Stage นี้ก็คือ การออกไปสัมภาษณ์ลูกค้า เก็บข้อมูล ทำการวิจัย เพื่อนำมาแชร์ให้กับเจ้าของ
    ข้อเสียก็คือ คุณอาจจะไม่ได้รับทราบภาพใหญ่ของการเป็นองค์กรที่มีระบบการปฏิบัติชัดเจน ตั้งแต่ยูนิฟอร์ม การเข้าออกงาน การเขียนใบลา การทำรายงานสรุปประชุม เป็นต้น

    เจ้าของยังกินแกลบ แล้วเราล่ะ!

     ดังที่เกริ่นไปแล้วว่าตอนแรกๆ ของการเปิดบริษัทสตาร์ทอัป ยากนักที่จะหารายได้ หลายบริษัทหารายได้ไม่ได้เลยเป็นเวลา 2-3 ปีเป็นอย่างต่ำ (แม้แต่แอมะซอนหรืออลีบาบา เปิดมา 6-8 ปี ยังไม่มีกำไรเลย) เหตุนี้เองถึงทำให้กิจวัตรประจำวันอีกอย่างของผู้ก่อตั้งนอกเหนือจะปั้นและแก้เว็บ-แอปฯ ของตัวเองแล้ว ก็ต้องเตรียมตัวฝึกพรีเซ็นต์ เพื่อขอเงินจากนักลงทุนด้วย

    ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เพื่อจะบอกกับน้องๆ ว่า เป็นการยากมากที่บริษัทสตาร์ทอัปจะมีการจ่ายเงินเดือนเล็กๆ น้อยๆ ให้กับน้องฝึกงาน เพราะแม้แต่ตัวเจ้าของเอง หากไม่มีเงินจากนักลงทุนมา เขาก็ต้องควักเงินเก็บมาเลี้ยงชีพ
    ดังนั้นหากเป้าหมายของน้องๆ คือ การเก็บทั้งเงินและประสบการณ์ระหว่างการฝึกงาน บริษัทสตาร์ทอัปอาจจะไม่ใช่คำตอบของคุณ!

    เปิดไว ปิดไว ยังไม่รอให้ดัง!

    ตามสถิติแล้ว บริษัทสตาร์ทอัปมีโอกาสล้มเหลวมากกว่า 90% แนวที่ว่า เปิดไว ปิดไว ซึ่งส่วนมากแล้วก็เพราะรูปแบบธุรกิจที่ไม่สามารถหารายได้ด้วยตัวเองได้ ต้องพึ่งนักลงทุนอย่างเดียว ดังนั้นหากน้องๆ หลายคนหวังว่าการจะใช้ชื่อบริษัทสตาร์ทอัปที่เคยฝึกงานไปใส่ลงในเรซูเม่ของตัวเอง เพื่อจะได้ยืดเต็มที่ ก็ต้องระวังหน่อย เพราะบางครั้งบริษัทอาจจะยังไม่ทันดัง แต่ก็ต้องปิดตัวไปซะแล้ว!

    สุดท้าย หากน้องๆ คนไหน อ่านมาถึงจุดนี้แล้วยังมีจิตใจฮึดและรักในสปิริตของบริษัทสตาร์ทอัปแล้วล่ะก็ สามารถเข้าไปดูรายชื่อบริษัทสตาร์ทอัปที่ตัวเองสนใจ และเขียนจดหมายแนะนำตัวไปสมัครได้เลย

    แต่หากใครเริ่มกล้าๆ กลัวๆ ก็ขอแนะนำเว็บสำหรับรับสมัครนักศึกษาฝึกงานโดยเฉพาะ ที่นี่ (ล้วนเป็นบริษัทใหญ่ที่เปิดมาหลายปี ก็มั่นคงอยู่เหมือนกัน)

    ข้อมูลเพิ่มเติม: เรื่องเล่าของเด็กฝึกงานในบริษัทสตาร์ทอัปเพลงสตรีมมิ่งอย่าง Spotify ในเมืองนอก http://pantip.com/topic/34009887
    
    NisitMatch คืออะไรเหรอ? แถบสีเหลืองด้านข้างตำแหน่งงานแต่ละตำแหน่งจะแสดงค่าความเหมาะสมของโพรไฟล์คุณกับตำแหน่งงาน คุณจำเป็นต้องใส่รายละเอียดในโพรไฟล์อย่างน้อย 80% ขึ้นไป จึงจะสามารถดูค่าความเหมาะสมของ NisitMatch ได้ สำหรับค่าความเหมาะสมที่แม่นยำยิ่งขึ้น

    เราแนะนำให้คุณใส่รายละเอียดให้ได้มากที่สุดหรือสร้างโพรไฟล์ให้สมบูรณ์ 100% คุณยังสามารถสมัครงานได้ทุกตำแหน่ง อย่างไรก็ตามตำแหน่งงานที่มีเปอร์เซ็นต์ค่าความเหมาะสมสูง ก็คือตำแหน่งที่เหมาะกับทักษะ การศึกษาและแบ็คกราวด์ของคุณมากที่สุด ถึงแม้ว่าคุณจะชอบตำแหน่งงานที่มีเปอร์เซ็นต์ค่าความเหมาะสมไม่สูงมากนัก แต่ก็ไม่แน่นะ มันอาจจะเป็นงานที่เหมาะกับคุณก็ได้!


ปัจจุบัน มีฐานข้อมูลบริษัทสตาร์ทอัปในไทยแล้วเกือบ 600 บริษัท เข้าไปดูข้อมูลทั้งหมดที่นี่ https://new.set.or.th/startup/browse/

ลองเข้าไปดูตำแหน่งที่รับได้ที่นี่ https://www.workventure.com/%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%94/%E0%B8%9D%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99