ก่อนหน้านี้เคยได้ลงบทความของ “เทคนิคการเป็นฟรีแลนซ์มืออาชีพ” ไปแล้ว โอกาสนี้ผู้เขียนจึงอยากเล่าถึง “ไลฟ์สไตล์ของการยึดอาชีพฟรีแลนซ์” ให้น้องๆ ได้เข้าถึงและเข้าใจว่าการไม่ทำงานประจำมันมีข้อดีและข้อด้อยยังไงบ้าง?

       ฟรีแลนซ์ VS งานประจำ
       ทำงานคนเดียว VS มีเพื่อนมีทีม

       โดยปกติแล้วคนรับงานฟรีแลนซ์จะมีความสามารถพิเศษที่โดดเด่นอยู่เพียงอย่างเดียวจนยึดมันเป็นอาชีพได้ เช่น วาดรูปเก่ง เขียนเก่ง แปลเก่ง ฉะนั้นวิถีของเหล่าฟรีแลนซ์ก็คือ การทำงานรูปแบบเดิมๆ คนเดียว (แต่ทำได้ไวเพราะเป็นงานที่เราถนัด) 
       ผิดกับการทำงานที่ออฟฟิศ บางทีเราได้ทำงานหลายๆ อย่าง และเมื่อเจอปัญหาอะไรก็ยังเม้าท์มอยขอความเห็นกับเพื่อนได้

       กล่าวโดยสรุป หากใครรู้ตัวดีกว่าชอบชีวิตเงียบ ทำเฉพาะงานที่ถนัด คุณเกิดมาเพื่อเป็นฟรีแลนซ์ละ!

    
       ฟรีแลนซ์ VS งานประจำ
       ทำงานตามตารางตัวเอง VS ทำงานตามตารางบริษัท/ทีม

       แม้ฟรีแลนซ์จะกำหนดตารางงานของตัวเองได้ (แค่ส่งให้ทันเดทไลน์) แต่ความเป็นจริงแล้วยิ่งต้องเป็นคนมีวินัยในตัวเองสูงมาก เพราะไม่ว่าจะรับงานเยอะแค่ไหนก็ต้องจัดตารางให้ถูก ทำงานให้ดี และส่งให้ตรงเวลากับทุกๆ เจ้า 
       ต่างจากการทำงานที่ออฟฟิศ ที่บางครั้งบางโครงการก็ยาวมากๆ ทำให้เราสามารถทำไปเรื่อยๆ ได้ แม้จะไม่มีงานก็ต้องอยู่ออฟฟิศ เพื่อตอกบัตร

       กล่าวโดยสรุป หากคุณเป็นคนสัญญาแล้วเป็นสัญญา การมีงานและรายได้มากพอที่จะเลี้ยงตัวเองได้ ออกมาเป็นฟรีแลนซ์ก็ให้พื้นที่คุณได้บริหารชีวิตและเวลาได้ตามที่คุณอยากให้เป็น

       ฟรีแลนซ์ VS งานประจำ
       หัวหน้าเพียบ VS หัวหน้าคนเดียว

       เพราะฟรีแลนซ์คือ การรับจ้าง หากเรารับจ้างจากหลายคน ก็เท่ากับว่าเรามีหัวหน้ามากมายตามไปด้วย ผิดกับคนที่ทำงานประจำ มักจะมีหัวหน้าเพียงคนเดียว ทำให้ความกดดันก็จะต่างกันออกไป เพราะหัวหน้าก็มีหลายสไตล์ เราต้องรู้จักและรับมือให้ได้ 
       ทั้งการทำงานล่วงเวลาในออฟฟิศมักจะได้รับเงินค่าโอที (OT: Over Time) แต่หากเป็นฟรีแลนซ์ ทำงานเงียบๆ คนเดียว หากลูกค้าต้องการงานด่วนแบบสั่งดึกเอาเช้า เราอยากได้เงิน ก็ต้องรับทำโดยไม่มีค่าล่วงเวลา เพราะลูกค้ามักจะจ่ายเป็นชิ้นงาน อาจจะมีเพิ่มให้เพราะความรีบเร่งก็เป็นได้ (แต่ไม่บ่อยนัก) 
    
    
      ฟรีแลนซ์ VS งานประจำ
      ดูแลสุขภาพตัวเอง VS ประกันกลุ่ม

      คนทำงานออฟฟิศ ตามกฎหมายแล้วนายจ้างต้องทำประกันกลุ่มให้ ซึ่งรวมตั้งแต่อุบัติเหตุ และสุขภาพ เมื่อเข้าหาหมอแบบไม่หนัก แค่ยื่นบัตรก็ออกจากโรงพยาบาลได้เลย
      แต่เมื่อเราคิดเป็นฟรีแลนซ์ เป็นนายตัวเอง เราก็ต้องรับหน้าที่จ่ายค่ารักษาพยาบาลของเราเองด้วย ฉะนั้นการหารายได้ของฟรีแลนซ์ ที่มาจากมันสมองและสมองมือของตัวเอง การรู้จักเผื่อเงินเก็บไว้ทำประกันให้กับตัวเอง ก็เป็นสิ่งที่ฟรีแลนซ์มืออาชีพจะต้องปฏิบัติทุกๆ คน 
      เพราะอย่าลืมว่า การลงทุนที่ดีที่สุด คือ การลงทุนในตัวเอง!     

http://www.boredpanda.com/freelance-vs-full-time-designer-illustration-caisa-nilaseca/?cexp_id=663&cexp_var=1&_f=featured