พี่แหมว – ชรินธร เย็นทรวง
พี่แหมว – ชรินธร เย็นทรวง
เลือกเรียน : คณะศิลปศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษสื่อสารธุรกิจ (English Business Communication)
จบจากโรงเรียน : วัดสระแก้ว (รุ่งโรจน์ธนกุลอุปถัมภ์)
IG : M_eawwwwwwww
APEC Voice of the Future 2022 จัดตั้งขึ้นเพื่ออะไร?
งานประชุมผู้นำเยาวชนเอเปค หรือ APEC Voices of the Future เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี 1998 ที่ประเทศมาเลเชียและดำเนินมาต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน จัดตั้งขึ้นมาเพื่อเปิดโอกาสให้กับเยาวชนที่มีความสามารถ ได้แสดงความคิดเห็นพร้อมเสนอแนวทางการพัฒนาศักยภาพของเศรษฐกิจ หรือประเด็นปัญหาของประเทศให้ไปในทิศทางที่ดีขึ้น เพื่อทุกชีวิตของ 21 เขตเศรษฐกิจและของโลกค่ะ
เหตุผลที่สมัครร่วมโครงการ?
ได้ทราบข่าวโครงการมาจากอาจารย์ตุ๊ก หรือผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ไพบูลย์ สุขวิจิตร บาร์ ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะศิลปศาสตร์ เลยเกิดความสนใจขึ้นมา เพราะเป็นงานที่มีความสำคัญระดับสากล และคงจะดีมากๆ ถ้าได้เข้าร่วม จึงตัดสินใจสมัครผ่านทางมหาวิทยาลัยศรีปทุม ก่อนได้รับทราบว่าได้ถูกเลือกให้เป็นตัวแทนค่ะ
หัวข้อในปีนี้ที่อยากพัฒนาคืออะไร?
เนื้อหา : ในปีนี้ประเทศไทยมีตัวแทนเยาวชน 11 คนค่ะ ทำหน้าที่หารือประเด็นสำคัญที่อยากให้มีการพัฒนาและแก้ไขภายในประเทศไทย โดยหัวข้อที่สรุปได้ปีนี้ คือประเด็นความเหลื่อมล้ำทางด้านการศึกษา ซึ่งการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ก็จะมีสิ่งที่สามารถพัฒนาไปสู่การแก้ปัญหาให้กับเขตเศรษฐกิจอื่นๆ ได้เช่นกันค่ะ
แต่ละวันทำหน้าที่อะไรบ้าง?
วันที่ 1 ได้ร่วมรับประทานอาหารเย็น พูดคุยอธิบายรายละเอียดของโครงการ ซึ่งก็เป็นวันแรกที่เราได้ทำความรู้จักกับผู้แทนเยาวชนจากเขตเศรษฐกิจอื่นๆ ซึ่งถือว่าสำคัญมาก เพราะเราจะได้รู้จักและพูดคุยกัน ทำให้กิจกรรมวันต่อๆ ไปราบรื่นขึ้นเยอะเลยค่ะ
วันที่ 2 ในช่วงเช้าจะเป็นวันพิธีเปิดงาน จัดขึ้นที่วชิราวุธวิทยาลัย และช่วงบ่ายมีการแบ่งกลุ่มออกเป็น 4 กลุ่ม เพื่อทำการพูดคุยและนำเสนอแนวทางเกี่ยวประเด็นปัญหาที่ได้พูดคุยกัน โดยธีมคอนเซ็ปท์หลักคือ opening connect and balance เป็นกรอบงาน APEC 2022 ค่ะ
วันที่ 3 ช่วงเช้าได้ไปจัดเวิร์คช็อปที่ Naraya ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าของไทยที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่นักท่องเที่ยว ส่วนช่วงบ่ายได้เข้าร่วมพิธีเปิดงานโดยท่านนายกรัฐมนตรีที่ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และก็ได้ร่วมเดินชมบูธต่างๆ ภายในงานค่ะ
วันที่ 4 เดินทางไปร่วมเวิร์คช็อป PTTLNG ที่มาบตาพุด ซึ่งเป็นบริษัทที่มีการจัดการในระดับสากล แล้วช่วงเย็นก็มีไปทานข้าวที่หาดนางรองค่ะ
วันที่ 5 ไปทำกิจกรรมที่ PIM ค่ะ ช่วงเช้าจะเป็นการแบ่งกลุ่มหารือพูดคุยถึงประเด็นปัญหา แล้วก็เสนอแนวทางแก้ไขตามหัวข้อที่ได้รับ ในช่วงบ่ายก็มีแบ่งกลุ่มเวิร์คช็อปตามที่เราสนใจค่ะ
วันที่ 6 กับ 7 จะเป็นวันที่จัด CEO Summit เนื่องจากเราได้สิทธิ์เข้ารับฟังแค่ 20 คนต่อหนึ่งการประชุม เลยต้องแบ่งกันเข้าฟัง ซึ่งแต่เขตเศรษฐกิจก็จะมีโควตาของตัวเอง ได้รับฟังผู้บริหารระดับสูงสุดหลายหลายท่านจากหลายหลายประเทศ ทำให้เราได้เรียนรู้มากมายเลยค่ะ
ในช่วงเย็นวันที่ 7 จะมีพีธีปิดเป็น Farewell Party แต่ละเขตเศรษฐกิจก็จะมีการแสดงโชว์ที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่เขตเศรษฐกิจค่ะ
ประสบการณ์ดีๆ ที่เราได้เจอคืออะไร?
อันดับแรกเลย คือได้เรียนรู้ศักยภาพของตัวเองว่าเราอยู่จุดไหน แล้วก็ได้พัฒนาตัวเองผ่านการเข้าร่วมกิจกรรมและ เวิร์คช็อปต่างๆ ที่ทาง Committee ได้จัดให้ รู้สึกว่ามุมมองและโลกทัศน์ของตัวเองกว้างขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ ข้อสองคือ เราได้รู้จักกับเยาวชนผู้นำที่เป็นตัวแทนจากในเขตเศรษฐกิจอื่นๆ เลยได้เรียนรู้แลกเปลี่ยนทัศนคติ ความคิดเห็น พูดคุยหารือกันทั้งในด้านเศรษฐกิจ และแนวทางการพัฒนาตัวเองในรูปแบบต่างๆ ทำให้ได้แนวคิด ไอเดียใหม่ๆ มาเยอะเลยค่ะ ทั้งยังได้มิตรภาพ ได้ความรู้ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการนำไปใช้พัฒนาทั้งประเทศ และพัฒนาตัวเองต่อไปค่ะ
คนที่เราอยากขอบคุณ?
ทางมหาวิทยาลัยให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ในทุกๆ ด้านเลยค่ะ ตั้งแต่มีการนัดพูดคุย มีโค้ชติดตามดูแลพวกเรา 3 คนอย่างใกล้ชิด ให้คำแนะนำเป็นอย่างดีมากๆ และผู้ที่อยากขอบคุณเป็นพิเศษเลยคือท่านอธิการบดี และท่านรองอธิบดี อ.เปรมจิต เสาวคนธ์ ที่ใส่ใจทุ่มเทคอยซัพพอร์ตพวกเราในทุกด้าน ทั้งยังให้การสนับสนุน รวมทั้งคณะผู้บริหารและอาจารย์ทุกๆ ท่าน โดยเฉพาะอาจารย์กระแตกับอาจารย์ช้าง ที่ดูแลพวกเราในทุกเรื่อง รู้สึกเป็นเกียรติและขอบคุณมากๆ ค่ะ